รีเซต

Adobe เปิดตัวเว็บแอป Firefly พื้นที่ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ใช้เชิงพาณิชย์ได้

Adobe เปิดตัวเว็บแอป Firefly พื้นที่ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ใช้เชิงพาณิชย์ได้
TNN ช่อง16
15 กันยายน 2566 ( 22:02 )
101

กรุงเทพฯ ประเทศไทย — 14 กันยายน 2566 — อะโดบี (Nasdaq: ADBE) เปิดตัวเว็บแอปพลิเคชั่นไฟร์ฟลาย (Firefly) พื้นที่ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์โดยอาศัย AI หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการทดลองใช้งานรุ่นเบต้าเป็นเวลา 6 เดือน ความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ได้ถูกรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ใหม่ ๆ บน Adobe Creative Cloud, Adobe Express และ Adobe Experience Cloud ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์


โมเดล Generative AI ของ Firefly สำหรับรูปภาพ เอฟเฟ็กต์ข้อความ และเวกเตอร์ รองรับข้อความคำสั่งกว่า 100 ภาษา และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสร้างคอนเทนต์ที่น่าทึ่งโดยสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย


ฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Adobe Firefly พร้อมใช้งานแล้วในแอป Creative Cloud เช่น Generative Fill และ Generative Expand ใน Photoshop, Generative Recolor ใน Illustrator และ Text to Image และ Text Effects ใน Adobe Express  การบูรณาการแบบเนทีฟเหล่านี้มอบพลังสร้างสรรค์ให้กับลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้พวกเขาสามารถทดลอง คิดค้น และสร้างสรรค์ผลงานด้วยวิธีที่แปลกใหม่ อะโดบีจะนำเสนอฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly มาสู่แอป Creative Cloud มากขึ้น และเวิร์กโฟล์วสำหรับงานถ่ายภาพ, รูปภาพ, งาน illustration, การออกแบบ, วิดีโอ, 3D และอื่น ๆ


อีไล กรีนฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานกว่า 2 พันล้านชิ้นโดยใช้ Firefly รุ่นเบต้า ครีเอเตอร์ทำให้เรารู้สึกทึ่งกับการมีส่วนร่วมและการตอบรับอย่างท้วมท้น ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เรานำเสนอความสามารถด้าน Generative AI ที่ออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในเชิงพาณิชย์ และบูรณาการอย่างไร้รอยต่อเข้ากับอินเทอร์เฟซที่ลูกค้าชื่นชอบ”


Firefly for Enterprise เปิดให้ใช้งานแล้ว โดยนำเสนอความสามารถด้าน Generative AI ที่ก้าวล้ำไปสู่ Adobe GenStudio และ Express for Enterprise อะโดบีกำลังทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรเพื่อให้สามารถปรับแต่งโมเดลโดยใช้แอสเซ็ทของลูกค้าในการสร้างคอนเทนต์แบบกำหนดเองและคอนเทนต์เฉพาะสำหรับแบรนด์ และลูกค้ายังสามารถเข้าถึง Firefly API เพื่อฝังเทคโนโลยี Firefly ไว้ในอีโคซิสเต็มส์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์ของลูกค้า นอกจากนี้ Firefly for Enterprise ยังมีการเสนอจ่ายค่าชดเชยให้กับธุรกิจสำหรับฟีเจอร์ Firefly ที่ใช้ในการสร้างภาพ


แบรนด์ระดับโลกชั้นนำ เช่น Accenture, IHG Hotels & Resorts, Mattel, NASCAR, NVIDIA, ServiceNow และ Omnicom ได้ทำงานร่วมกับอะโดบีเพื่อศึกษาร่วมกันว่า Firefly สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และช่วยเร่งคอนเทนต์ซัพพลายเชนได้อย่างไร


เปิดตัว Generative Credit


อะโดบีเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ใช้เครดิตสำหรับ Generative AI ซึ่งครอบคลุมบริการทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการปรับใช้เวิร์กโฟลว์การสร้างรูปภาพที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Firefly Image ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนบริการแบบชำระเงินของ Firefly เวอร์ชัน Express Premium และ Creative Cloud จะประกอบด้วยการจัดสรร “fast” Generative Credits ซึ่งเป็นโทเค็นที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ข้อความคำสั่งในการสร้างรูปภาพและเวกเตอร์ใน Photoshop, Illustrator, Express และ Firefly


หลังจากที่ใช้ Generative Credits “หมดเร็วกว่ากำหนด” สมาชิกจะยังสามารถสร้างรูปภาพ Generative AI และเอฟเฟ็กต์ข้อความได้ แต่ประสบการณ์การใช้งานจะช้าลง และหลังจากครบจำนวน Generative Credit แล้ว ลูกค้ายังสามารถซื้อชุดบริการ Generative Credit เพิ่มเติมได้ โดยอะโดบีคาดว่าจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ Generative Credit "fast" เพิ่มผ่านแพ็คเกจการสมัครสมาชิกได้ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป


ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI


Firefly จะประกอบด้วยหลายโมเดล ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีชุดทักษะและพื้นฐานทางเทคนิคที่หลากหลาย โดยรองรับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างหลากหลาย โมเดลแรกของอะโดบีได้รับการฝึกโดยใช้รูปภาพจาก Adobe Stock ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่อนุญาตให้ใช้งานอย่างเปิดเผย และเป็นคอนเทนต์สาธารณะที่ลิขสิทธิ์หมดอายุ โดยมุ่งเน้นที่รูปภาพ, text effects โดยถูกออกแบบมาเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย


โมเดล Adobe Firefly ในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากแอสเซ็ท เทคโนโลยี และข้อมูลการฝึกที่หลากหลายจากอะโดบีและองค์กรอื่น ๆ  และเมื่อมีการปรับใช้โมเดลอื่น ๆ อะโดบีจะยังคงให้ความสำคัญกับ bias ที่อาจเป็นอันตรายได้


ตามค่าเริ่มต้น Firefly จะรวม Content Credentials ไว้ในทุกเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly เพื่อระบุว่ามีการใช้ generative AI ซึ่งนำความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสมาสู่ดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น โดย Content Credentials เป็นรายละเอียดที่สามารถตรวจสอบได้ ทำหน้าที่เป็น “ฉลากโภชนาการ” ดิจิทัล ซึ่งแสดงข้อมูลต่าง ๆ ตั้งแต่ชื่อของแอสเซ็ท วันที่สร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง และการแก้ไข Content Credentials ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องมือโอเพ่นซอร์สฟรีจาก Content Authenticity Initiative (CAI) โดยข้อมูลยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์นั้น ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม ช่วยให้ระบุแหล่งที่มาได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลคอนเทนต์


รับชมการอัปเดตสำคัญ ๆ เกี่ยวกับ Generative AI ใน Adobe Firefly, Photoshop, Illustrator และ Express ได้ที่ Adobe LIVE ย้อนหลัง




ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง