มวลน้ำเหนือมาแล้ว 6 ก.ย.เขื่อนเจ้าพระยาปรับระบายน้ำ เตือนอ่างทอง-อยุธยาน้ำขึ้นสูง

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 13/2568 เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในระดับ 1,500–2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนนี้จะเริ่มปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

กรมชลประทานคาดการณ์ว่า มวลน้ำเหนือที่ไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ตลอดเดือนกันยายนจะอยู่ในช่วง 900–2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาสมทบอีกกว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มอยู่ที่ระดับ 2,000–2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เลขาธิการ สทนช. ระบุว่า การระบายน้ำในระดับดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะคลองโผงเผง คลองบางบาล และแม่น้ำน้อย ซึ่งระดับน้ำอาจสูงขึ้นจากเดิม 30 เซนติเมตร ถึงกว่า 1 เมตร จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงยกของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย

ทั้งนี้ จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง หากปริมาณน้ำเหนือไม่เพิ่มมากนักและยังสามารถบริหารจัดการได้ ก็จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำลง นอกจากนี้ ยังได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง เพื่อเป็นกลไกรับมือสถานการณ์น้ำและฝนช่วงเดือนกันยายน–ตุลาคม พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าภาคกลาง เพื่อวางแผนล่วงหน้าในการบริหารจัดการลุ่มน้ำท่าจีน บางปะกง และป่าสัก เพื่อลดผลกระทบกับประชาชน

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เลขาธิการ สทนช. ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำในขณะนี้