ลุ้น คลังขยับ "คนละครึ่ง เฟส 4" เร็วขึ้น ช่วยบรรเทาปัญหาของแพง
วันนี้ “สุพัฒนพงษ์” นัดถก “อาคม” ออกแพ็กเกจช่วยค่าครองชีพประชาชน ลุ้นขยับ คนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้น “สันติ” หนุนเร่งคนละครึ่ง บรรเทาปัญหาของแพง สบน. เผย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เหลืออีก 2.27 แสนล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 มกราคม 2565 จะมีการประชุมในรูปแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อหารือถึงแพ็กเกจการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ในภาวะสินค้าราคาแพง โดยจะมีการพิจารณาโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงกลุ่มเปราะบาง เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่ม
ส่วนจะมีการเลื่อนโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เข้ามาให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 หรือไม่นั้น นายอาคม กล่าวว่า จะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งเรื่องระบบการลงทะเบียน การใช้งบประมาณ และขั้นตอนต่างๆ ในการอนุมัติ
“การจะขยับคนละครึ่งให้ออกมาเร็ว เพื่อลดภาระค่าครองแพงนั้น จะมีการหารือกับรองนายกในวันนี้ ส่วนจะทันเข้าครม. นัด 18 มกราคม หรือไม่นั้น จะต้องรอหารือกันก่อน ซึ่งจะทำออกมาเป็นแพ็คเกจดูแลกลุ่มเปราะบาง และบัตรสวัสดิการด้วย” นายอาคม กล่าว
ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ถือเป็นระลอก 5 ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย หากจะมีการเร่งโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ให้เร็วขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากโครงการคนละครึ่ง ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของคนฐานราก ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้มีรายได้หมุนเวียนระบบเศรษฐกิจ
“ขณะนี้ประชาชน กำลังประสบปัญหาหลายๆด้าน ทั้งสินค้าราคาแพง และการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ก็น่าจะเป็นผลดี และช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนได้” นายสันติ กล่าว
ส่วนการเตรียมความพร้อมระบบเพื่อรองรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานในการดำเนินการ เนื่องจากโครงการได้ผ่านมา 3 ระยะแล้ว ดังนั้นการเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกรอกรายละเอียดมาก เพียงยืนยันตัวตน และยืนการรับสิทธิ์ ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เหมือนเฟส 3 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของวงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งเฟส 4 นั้น จะนำมาจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ ยังเหลือวงเงินที่เพียงพอจะใช้จ่ายได้ โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกโครงการคนละครึ่งเฟส 3 แต่ยอดใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน คงเหลือวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)กล่าวว่า สำหรับวงเงินพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวงเงินการใช้จ่ายไว้ที่ 3.43 แสนล้านบาท ขณะนี้ สบน.ได้ดำเนินการกู้เพื่อใช้จ่ายในการดูแลเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 แล้วจำนวน 2.73 แสนล้านบาท ฉะนั้น จึงยังเหลือวงเงินที่จะใช้จ่ายได้ประมาณ 2.27 แสนล้านบาท