ใจสลาย! เงินสด 2.5 แสน ลอยหายไปกับน้ำป่า พบแค่เศษธนบัตร คาดเปื่อยยุ่ยไปกับน้ำ
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 65 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่บ้านชำปาง หมู่ 8 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ส่งผลให้มีบ้านเรือนของประชาชน ถูกกระแสน้ำป่าพัดพังเสียหายหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านของ นางสุภาพร มีเค้า อายุ 62 ปี เลขที่ 40/16 หมู่ 8 ต.ปัถวี ถูกน้ำป่าไหลหลากซัดพังเสียหายเกือบทั้งหลัง โดยยังมีเงินสด อีกจำนวน 250,000 บาท ที่เพิ่งกู้มาจากกลุ่มสัจจะ วางไว้ใต้หมอนบนที่นอน ถูกน้ำป่าซัดทะลุห้องกำแพงพังทั้งแถบลอยหายไปกับน้ำทั้งเตียง
ความคืบหน้าช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่บ้านของ นางสุภาพร มีเค้า เหยื่อน้ำป่าไหลหลาก ได้พาลูกหลานและญาติๆ ได้เข้ามาสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์การเกษตร ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายออกมากองนอกบ้าน และยังพยายามกระจายกันออกเดินเท้าตามหาเงิน 250,000 บาท ตามเศษซากปรักหักพัง และตลอดแนวสองฝั่งคลอง เพื่อความหวังว่าจะได้พบกับเงินที่ลอยหายไปกับน้ำแต่ไร้วี่แวว
จากการสอบถาม นางสุภาพร เจ้าของบ้านและเจ้าของเงินสด 2.5 แสน ในวันนี้ที่อยู่ในสภาพจิตใจที่เริ่มดีขึ้น เล่าเหตุการณ์ ช่วงเช้าวานที่ผ่านมาได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และในคลองเริ่มมีระดับน้ำท่วมสูงเอ่อล้นตลิ่งและไหลเชี่ยว จึงพยามขนย้ายทรัพย์สิน เครื่องมือการเกษตรตลอดจนปุ๋ยยาขึ้นที่สูง โดยไม่ทันนึกถึงเงินสด 2.5 แสน ที่วางไว้ใต้หมอนบนที่นอน
แต่เนื่องจากกระแสน้ำป่ามาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน โดยมวลน้ำได้หลากเข้าทางหน้าบ้าน ดันประตูทะลักเข้าห้องนอนจนซัดกำแพงห้องพังถล่มลงมาทั้งแถบ และยังพัดพาเอาเตียงนอนเหล็กพร้อมที่นอน และเงินสด 2.5 แสน ลอยหายไปกับกระแสน้ำ
โดย นางสุภาพร เปิดเผยที่มาเงินดังกล่าวว่า ได้ทำเรื่องกู้มาจากกลุ่มสัจจะเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 65 มาจำนวน 250,000 บาท เพื่อเตรียมไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำสวน โดยตั้งใจจะนำเงินดังกล่าวไปฝากธนาคารในเช้าวันที่ 31 ส.ค.แต่เกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากก่อน
ขณะเงินสดที่ได้มาช่วงกลางคืน ได้ทำการตรวจนับและมัดรวมเป็นปึก ปึกละ10,000บาท ก่อนนำมัดรวมเป็นปึกใหญ่ยัดใส่ไว้ในปลอกแขนผ้าที่ใส่ทำสวน โดยไม่ได้มัดหัว-ท้าย ก่อนนำใส่ในถุงพลาสติกอีกชั้นและมัดปากนำวางไว้ใต้หมอน
โดนหลังน้ำลดได้พร้อมกับลูกหลาน ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนบ้าน ระดมออกค้นหาตามสองฝั่งคลอง ตั้งแต่ต้นน้ำคลองชำปางจนถึงปลายน้ำ รอยต่อคลองโป่งโรงเซ็น ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แต่ไร้วี่แวว มีเพียงเพื่อนบ้านไปพบเพียงเศษธนบัตรขาดลอยติดกิ่งไม้ ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ความหวังที่จะพบเงินจำนวนดังกล่าว มากหรือน้อย พังทลายลงทันที
ทั้งนี้ความคาดหวังการดำเนินชีวิตต่อไป เบื้องต้นขณะนี้ไปอยู่ที่บ้านเพื่อนพักอาศัยหลับนอนชั่วคราวก่อน ส่วนเงินใช้หนี้และใช้ในชีวิตต่อไป คงต้องรอผลผลิตจากสวนผลไม้ ส่วนขณะนี้ได้มีเพื่อนบ้าน หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาที่ทราบข่าว ได้นำสิ่งของมาช่วยเหลือและมอบเงินไว้ใช้จ่ายบ้างแล้ว
ขณะที่ นายประสงค์ เรืองศรี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปัถวี เปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบพังเสียหายประมาณ 18 หลังคาเรือน อุปกรณ์เครื่องมือทางการเกษตรเกือบทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ และมีพื้นที่เกษตรกรรม เสียหายบางส่วน
ในวันนี้ทางเทศบาล ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบประเมินความเสียหาย พร้อมนำเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถดับเพลิง ระดมฉีดน้ำล้างคราบโคลน ตลอดจนทำความสะอาดลงน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ให้กับบ้านเรือนราษฎรที่ประสบภัย เพื่อเข้าอยู่อาศัยชั่วคราว พร้อมนำสิ่งของถุงยังชีพมอบให้ในเบื้องต้น
ขณะที่ทางเหล่ากาชาด และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จันทบุรี ได้นำถุงยังชีพ ข้าวสารตลอดจนเครื่องนุ่งห่มและของใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมประสานเทศบาลประเมินความเสียหาย ในส่วนบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในการหาแนวทางจัดหางบประมาณ และวัสดุก่อสร้าง มาช่วยเหลือบำรุงซ่อมแซมต่อไป