รีเซต

สื่อนอกตีข่าว! ตลาดจตุจักรอาจนำเชื้อโควิด สู่ อู่ฮั่น ชาวเน็ตเย้ย ไทยตกต่ำใต้จีน

สื่อนอกตีข่าว! ตลาดจตุจักรอาจนำเชื้อโควิด สู่ อู่ฮั่น ชาวเน็ตเย้ย ไทยตกต่ำใต้จีน
ข่าวสด
23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:27 )
37
สื่อนอกตีข่าว! ตลาดจตุจักรอาจนำเชื้อโควิด สู่ อู่ฮั่น ชาวเน็ตเย้ย ไทยตกต่ำใต้จีน

ชาวเน็ตเย้ย ไทยตกต่ำใต้จีน สื่อเดนมาร์กตีข่าว ตลาดนัดจตุจักร อาจเป็นแหล่งต้นตอของโควิด-19 ที่นำพาเชื้อดังกล่าวไปสู่เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาด

 

Politiken

 

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 สำนักข่าว Politiken ของเดนมาร์ก ได้นำเสนอข่าวว่า ตลาดค้าสัตว์ในกรุงเทพฯอาจเป็นสถานที่ ที่นำไวรัสโควิด-19 มาสู่ เมืองอู่ฮั่น และทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก

 

โดยตลาดค้าสัตว์ ที่สื่อดังกล่าวระบุก็คือ ตลาดค้าสัตว์เลี้ยงจตุจักร หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ตลาดนัดจตุจักร สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ เธีย เคิลเซน ฟีสเชอร์ แพทย์จากองค์การอนามัยโลกชาวเดนมาร์ก ตั้งข้อสงสัยว่า ตลาดนัดจตุจักร อาจเป็นแหล่งต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่นำพาเชื้อดังกล่าวไปสู่เมืองอู่ฮั่น ในประเทศจีน ศูนย์กลางการระบาดโควิด-19

 

อย่างไรก็ตามแพทย์คนดังกล่าวได้ระบุว่า จากการตรวจสอบ พบเชื้อ Sars-Cov-2 ในค้างคาวพันธุ์เกือกม้า จากประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งพบในค้างคาวของประเทศอื่น ๆ เช่นกัน แต่ไม่ได้พบเชื้อโควิด-19 ในค้างคาวประเทศไทย

 

BK Mag

 

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เดอะ ซัน สื่อชื่อดังของอังกฤษ ก็เคยออกมาตั้งข้อสงสัยในตลาดนัดจตุจักรมาแล้ว และเรียกตลาดนัดจตุจักรว่า "ตลาดค้าสัตว์ป่าอู่ฮั่นแห่งที่สอง" เนื่องจาก ตลาดจตุจักร เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการค้าสัตว์หายาก ซึ่งคล้ายคลึงกับตลาดในเมืองอู่ฮั่น ทั้งยังมีข่าวคราวว่าเป็นแหล่งลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ที่ผ่านมามีการเรียกร้องมากมายหลายครั้งจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถึงสวัสดิภาพสัตว์ป่าชนิดต่างๆที่อาศัยในกรงขังอย่างแออัด

 

จากการร้องเรียนและแจ้งความหลายครั้ง ส่งผลให้หน่วยงานรัฐจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรักสัตว์ที่เป็นผู้ร้องเรียน ระบุว่า เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไปตรวจสอบ ในวันดังกล่าว ทุกอย่างกลับเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างผิดวิสัย และไม่มีสัตว์ผิดกฎหมายหลงเหลืออยู่ในตลาดดังกล่าวเลย

 

Twitter

 

อย่างไรก็ตาม จากเนื้อหาของสื่อดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ที่น่าแปลก ชาวเน็ตไทยไม่ได้วิจารณ์องค์การอนามัยโลก แต่กลับพุ่งเป้าการวิจารณ์ไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับรัฐบาลไทย และเบื้องลึกของรัฐไทยแทน เนื่องจากทางรัฐบาลไทยไม่มีท่าทีตอบสนองต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อยราวกับต้องการปกป้องชื่อเสียงให้รัฐบาลจีน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง