รีเซต

จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมช่วงฤดูฝน โอนเงินสำเร็จ 200,564 ครัวเรือน

จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมช่วงฤดูฝน โอนเงินสำเร็จ 200,564 ครัวเรือน
TNN ช่อง16
5 พฤศจิกายน 2567 ( 16:20 )
15
จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมช่วงฤดูฝน โอนเงินสำเร็จ 200,564 ครัวเรือน

วันนี้ (5 พ.ย. 67) ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม 2567 รัฐบาล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปัจจุบัน (4 พ.ย. 67) ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว รวม 17 ครั้ง 41 จังหวัด 220 อำเภอ 200,564 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,805,024,000 บาท 


ทั้งนี้ ปภ. ขอเน้นย้ำประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 และมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และ/หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เร่งยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ โดยเร็ว เพื่อที่ ปภ. จะได้ประสานจังหวัด เพื่อเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยโดยเร็วที่สุด 


นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 และวันที่ 8 ตุลาคม 2567 และได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่ง ปภ. ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบภัยในการเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด 


ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 เวลา 16.30 น. ปภ. ได้ส่งข้อมูลผู้ประสบภัยให้ธนาคารออมสินแล้ว 222,420 ครัวเรือน และธนาคารออมสินได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัยสำเร็จแล้วจำนวน 17 ครั้ง (เมื่อวันที่ 27, 30 ก.ย. 67 วันที่ 2, 4, 8, 9, 17, 18, 21, 22, 24, 25, 28, 29, 30, 31 ต.ค. 67 และวันที่ 4 พ.ย. 67) รวม 41 จังหวัด 220 อำเภอ 200,564 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,805,024,000 บาท โดยคาดว่าจะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครั้งที่ 18 ของจังหวัดพิษณุโลก หนองบัวลำภู อุดรธานี แม่ฮ่องสอน หนองคาย ตราด อ่างทอง พะเยา นครราชสีมา กระบี่ สุโขทัย ตราด เชียงราย พิจิตร และเพชรบูรณ์ ได้ในวันนี้ 5 พ.ย. 67 ครั้งที่ 19 ของจังหวัดภูเก็ต สุโขทัย เชียงใหม่ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา แม่ฮ่องสอน และลำพูน ได้ในวันที่ 6 พ.ย. 67 และครั้งที่ 20 ของจังหวัดอุบลราชธานี เพชรบูรณ์ อุดรธานี บึงกาฬ อ่างทอง นครพนม และพระนครศรีอยุธยา ได้ในวันที่ 7 พ.ย. 67


จากข้อมูลการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผ่านระบบออนไลน์ ณ วันที่ 5 พ.ย. 67 พบว่า 3 จังหวัดที่มีผู้ยื่นคำร้องสูงสุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ยื่นคำร้อง 83,855 ครัวเรือน โอนสำเร็จ 25,906 ครัวเรือน รองลงมาคือ จังหวัดเชียงราย มีผู้ยื่นคำร้อง 36,179 ครัวเรือน โอนสำเร็จ 30,773 ครัวเรือน และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ยื่นคำร้อง 32,932 ครัวเรือน โอนสำเร็จ 30,307 ครัวเรือน 


ทั้งนี้ ปภ. ได้เน้นย้ำให้ 57 จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือตามมติ ครม. เร่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด 


นอกจากนี้ ปภ. ขอเน้นย้ำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 และจังหวัดได้มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และ/หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เร่งดำเนินการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ โดยเร็ว โดยสามารถดำเนินการได้ 2 ช่องทาง ทั้งแบบ Onsite และ Online โดยแบบ Onsite ประชาชนสามารถยื่นคำร้องฯ ด้วยตนเอง ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย ส่วนแบบ Online จะดำเนินการยื่นคำร้องและติดตามสถานะผ่านเว็บไซต์ https://flood67.disaster.go.th

 

ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน ขอให้ตรวจสอบและรีบไปดำเนินการให้เรียบร้อย จะได้สามารถรับเงินช่วยเหลือได้โดยเร็ว และทาง ปภ. จะได้เร่งประสานจังหวัด เพื่อดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด 


ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ขั้นตอน และระยะเวลาการดำเนินงานรวมไปถึงวิธีการกรอกข้อมูลยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ได้ที่กองช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปภ. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2637-3508 - 10,12 หรือ 089-600-6777 และ 084-874-7387 และหากต้องการสอบถามเรื่องการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ผ่านระบบออนไลน์ https://flood67.disaster.go.th หรือพบปัญหาในการใช้งาน สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปภ. ได้ที่หมายเลข 0-2637-3604-06 และ 089-968-1232



ภาพจาก TNN ONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง