หนุ่มซิ่งเก๋งชนอัดเสาไฟฟ้า เพื่อนกระเด็นออกนอกรถตายคาที่ คนขับเจ็บ
เมื่อเวลา 04.00 นวันที่ 13 กรกฎาคม ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถเก๋งเสียหลักชนอัดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณถนนรังสิต-นครนายกระหว่างคลอง 9 คลอง 10 มุ่งหน้านครนายก ตำบลบึงสนั่น อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลธัญบุรีและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งให้การช่วยเหลือ
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ญฮ- 1669 กรุงเทพมหานคร สภาพรถพังยับเยินกอดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าข้างทาง พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอัดติดอยู่ที่บริเวณที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง และนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งให้รถโรงพยาบาลธัญบุรี ทราบชื่อคือ นาย จิรวัฒน์ บุพเกตุ อายุ 26 ปี และห่างจากตัวรถ ประมาณ 15 เมตร พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ และพบกระเป๋าสตางค์ ที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อ คือ นายวันเฉลิม อุ่มเจริญ อายุ 24 ปี และบัตรประจำตัว (พลทหารวันเฉลิมฯ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 ) พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 14 ตำบลลำไทร อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
นายทอง ใจภักดี อายุ 40 ปีชาวจังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านที่อยู่ในจุดเกิดเหตุบอกว่าตนเองได้ยินเสียงเหมือนรถชนอะไรบางอย่างที่หน้าบ้าน จากนั้นก็ออกมาดูก็พบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายและก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 1 รายซึ่งเป็นผู้ขับขี่ที่นอนร้องครวญครางอยู่ ตนเองจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยทราบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบกลุ่มเพื่อนๆของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆศพ บอกว่า พวกตนเองไปนั่งดื่มกันที่ย่านคลอง 7 ธัญบุรี และกำลังแยกย้ายกลับบ้านโดยผู้เสียชีวิตบอกว่าให้ไปเจอกันที่บ้านพัก ที่คลอง12 อำเภอลำลูกกา แต่ไม่ทราบสาเหตุเพราะอะไร ถึงเกิดอุบัติเหตุชนกับเสาไฟฟ้าดังกล่าว
ทางด้านร.ต.อ..สริพงษ์ อภิวัน ร้อยเวรสอบสวน ได้ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลธัญบุรี พร้อมทั้งเชิญตัวเพื่อนๆ ผู้เสียชีวิตไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง