กรมการกงสุลเตือนคนไทยเลี่ยงไปกัมพูชา - ผู้อยู่อาศัยให้ระมัดระวังตัว

ประกาศแจ้งเตือนคนไทย กรณีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา
กรมการกงสุล ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กล่าสุด โดยระบุว่า ตามที่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศขอให้พี่น้องชาวไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่มีความจำเป็นยิ่งยวด และสำหรับคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำรงชีวิต และ หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุมและพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจน ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่
ทั้งนี้ ในกรณีต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อได้ดังนี้
- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ หมายเลขฉุกเฉิน (+855 975 749 682)
- สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ (+855 86 608 999)
- Call Center กรมการกงสุล (02 572 8442 ตลอด 24 ชม.) หรือผ่านแอปพลิเคชัน Thai Consular
“ไทย - กัมพูชา” ชายแดนตึงเครียด ปิดด่านเพิ่ม
สำหรับสถานการณ์ของไทย - กัมพูชาล่าสุดนั้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลเอก ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดารมีชัยว่า กองทัพภาคที่ 2 ของไทยได้ส่งหนังสือแจ้งปิดด่าน “ช่องสายตะกู–จุ๊บโกกี” บริเวณเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และอำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดารมีชัย ของกัมพูชา มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา
จากการดำเนินการฝ่ายเดียวของไทย รัฐบาลกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการอนุมัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดารมีชัยปิดด่าน “จุ๊บโกกี” ถาวร และยังสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหารปิดด่าน “จ๊อม” ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เช่นกัน โดยให้มีผลทันที
หลังจากนั้น กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมลงนามในคำสั่งปิดด่านพรมแดนอีก 2 จุด คือ ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ภายหลังจากที่ได้มีคำสั่งปิดด่านช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา
การปิดด่านชายแดนทั้ง 3 แห่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังสุรนารี โดยเป็นมาตรการตอบสนองต่อสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาความสงบและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
