จ่อเข้าครม. หนุนกองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษี 3 แสนบ.-ถือ 5 ปี

#Thaiesg #ทันหุ้น – การแถลงข่าวร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์เตรียมเสนอมาตรการส่งเสริมการออมการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี
แนวทางการส่งเสริมการออมการลงทุน จะมีการปรับเงื่อนไขกองทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มีในปัจจุบัน คือ ThaiESG ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการส่งเสริมให้เกิดการออม ผ่านการลงทุนในตลาดทุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ระดมทุนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
ThaiESG (ปัจจุบัน)
ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึ่งประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน < 100,000 บาท
ระยะเวลาถือครอง 8 ปี (นับจากวันที่ซื้อ)
นโยบายลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 80% NAV ดังนี้
(1) หุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E)/ESG หรือเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก
(2) ESG Bond
(3) Green Token
ThaiESG (ข้อเสนอต่อครม.)
ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน < 300,000 บาท
ระยะเวลาถือครอง 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ)
นโยบายลงทุน > 80%NAV ดังนี้
(1) หุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) / ESG หรือเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน cg rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลต้านบรรษัทภิบาล (G) ในระดับ และ รูปแบบ ที่ ก.ล.ต. กำหนด
(2) ESG Bond
(3) Green Token
(4) หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล
ผลที่คาดหวัง
1. การขยายวงเงิน : จากผลการศึกษาพบว่า เงินลงทุนใน LTF ทุก 1 หมื่นล้านบาท จะส่งผลต่อ SET Index 25-27 จุด เป็นทางเลือกในการออมให้กับกลุ่มคนอายุน้อย อาชีพอิสระ และกลุ่มคนที่ลงทุนในวงเงินเกษียณ (เช่น RMF) ไม่เต็มจำนวน
2. การปรับระยะถือครอง ดึงดูดกลุ่มคนอายุน้อย อาชีพอิสระที่รับความสี่ยงการลงทุนในหลักทรัพย์ใต้ แต่ต้องการสภาพคล่องสูงกว่า
3. การขยายนโยบายลงทุน ส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการที่สร้างความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในมิติที่ครอบคลุมมากขึ้น และส่งเสริมความโปร่งใส ให้ข้อมูลเชิงมูลค่าประกอบการตัดสินใจมากขึ้น
ทั้งนี้ กองทุน Thailand ESG Fund (ThaiESG) หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นอีกทางเลือกของการลงทุนสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืน และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี