ตร.ทางหลวงอยุธยา ใช้ SVCC เช็กรถต้องสงสัย สกัดจับยานรก5ล้านเม็ด
ตำรวจทางหลวงอยุธยา ใช้ระบบ SVCC ตรวจสอบรถต้องสงสัย ก่อนสกัดจับผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือกว่า 5 ล้านเม็ด คุมตัวดำเนินคดี
วันที่ 13 ก.ย.2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ขุนเขา โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล. โดย พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ประกอบด้วย นายสิทธิพล (ขอสงวนนามสกุล), นายตั๋ว (ขอสงวนนามสกุล), นายขวัญนภัส (ขอสงวนนามสกุล) กับพวก ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ จาก จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง
ตำรวจทางหลวงอยุธยา ใช้ระบบ SVCC ตรวจสอบรถต้องสงสัย ก่อนสกัดจับผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือกว่า 5 ล้านเม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดกับกุม จึงได้นำข้อมูลทะเบียนรถเข้าระบบ ศูนย์ปฏิบัติการตรวจและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย Suspect vehicle command center (SVCC) และจัดชุดสกัดกั้นเตรียมพร้อมในการจับกุม กระทั่ง พบรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน ณว9662 กรุงเทพมหานคร ขับมาถึงบริเวณริมถนนสายเอเชีย ขาขึ้นเหนือ ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น มี นายขวัญนภัส เป็นคนขับ
จากการตรวจสอบพบยาบ้า ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม มีอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเรียบและสีเขียวปะปนเล็กน้อย ประทับตัวเลข 999 ด้านหนึ่ง ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ กระสอบละ 20 แพ็ก หรือ 100 มัด จำนวน 27 กระสอบ รวมเป็นยาบ้าจำนวน 2,700 มัด หรือจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5,400,000 เม็ด บรรทุกอยู่กระบะท้ายรถแบบมีหลังคาปิด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุม นายสิทธิพล และ นายตั๋ว ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน 2กฮ 3133 กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่นำทาง สำรวจเส้นทางและคุ้มกันการลำเลียงยาเสพติด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การว่า ร่วมกันรับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 2,000,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป
