รอง ผบช.น. มอบอุปกรณ์กัน โควิด ให้ตำรวจสน.เตาปูน เน้นป้องกัน-ฆ่าเชื้อ

รอง ผบช.น. มอบอุปกรณ์กัน โควิด ให้ตำรวจสน.เตาปูน เน้นป้องกัน-ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด-จัดสถานที่ใหม่ เผยมีตำรวจสน.เตาปูนติดโควิดแล้ว 7 ราย กักตัวอีก 18 ราย

โควิด-รองผบช.น. / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่สน.เตาปูน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. มอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และอุปกรณ์จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่แก่ พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.สน.เตาปูน และตำรวจสน.เตาปูน ช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แก่ตำรวจสน.เตาปูน ซึ่งเป็นหนึ่งในสน.ที่พบตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ให้มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ

ในส่วนของสน.เตาปูน สน.ท่าเรือ สน.ลุมพินี และสน. พระราชวัง ที่พบว่ามีตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของสน.เตาปูน ได้รับรายงานว่ามีตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 7 นาย ประกอบด้วยฝ่ายสืบสวน 4 นาย ฝ่ายป้องกันปราบปราม 1 นายและตำรวจจราจร 2 นาย มีตำรวจอยู่ในระหว่างทำการกักตัวเฝ้าระวังอีก 18 นาย จะครบกำหนดเฝ้าระวัง ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ อีกทั้ง ยังมีครอบครัวของตำรวจสน.เตาปูน ติดเชื้อ อีก 2 คน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่พบว่ามีตำรวจในสน.เตาปูนติดเชื้อ ทางสน. ได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เข้มข้นขึ้น ด้วยการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดสน.ไปแล้ว 3 ครั้ง พร้อมกับจัดสถานที่ใหม่ ด้วยกันจัดเก้าอี้นั่งสำหรับประชาชนที่มาใช้บริการ ให้มีระยะห่างระหว่างเก้าอี้อย่างน้อย 1 เมตร

พร้อมกับเพิ่มระยะห่างของโต๊ะรับแจ้งความให้ห่างอย่างน้อย 1 เมตร และให้ตำรวจทุกนายสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ ทางบช.น. ได้สั่งทำเเผ่นกั้นอะคิลิคใส เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อระหว่างตำรวจและประชาชน ซึ่งจะจัดทำและกระจายส่งไปยัง 88 สน.ภายในเร็ววันนี้ พร้อมกับเร่งอบรมให้ความรู้ตำรวจนครบาลให้มีวิธีการรับมือและป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างถูกต้อง

ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ที่มีเพจเฟซบุ๊กเผยแพร่การฝึกซ้อมหลักสูตรควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นเพียงการซักซ้อมแผนปฏิบัติเพื่อนำไปเสนอต่อ ผบช.น. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าจะเห็นด้วยต่อแผนปฏิบัติดังกล่าวหรือไม่

โดยเป็นการทดลองสถานการณ์ขั้นรุนแรงที่สุด หากพบผู้ป่วยมีอาการคลุ้มคลั่งเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ควรจะมีวิธีการปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะปลอดภัย ซึ่งในการทดลองปฏิบัติได้นำอุปกรณ์ไม้ง่ามที่มีใช้อยู่ในหลายสน.มาทดลองใช้เพื่อดูว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ทั้งต่อตัวผู้ปฏิบัติเองและผู้ป่วย เพราะต้องคำนึงว่าผู้ป่วยไม่ใช่ผู้ร้าย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า ก่อนจะมีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน ผบช.น. ได้เน้นย้ำ 88 สน.ให้เพิ่มความระมัดระวังตัวเองในการออกปฏิบัติหน้าที่ จัดหาอุปกรณ์ป้องกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น กรณีพบผู้เสียชีวิตโดยยังไม่ทราบสาเหตุ ให้ตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกัน พร้อมประสานแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้ผู้เสียชีวิตถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุเป็นระยะเวลานาน