เนทันยาฮูประกาศไม่หยุดโจมตีผู้นำฮามาสในต่างแดน

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสที่อยู่ในต่างประเทศเพิ่มเติม หลังจากเหตุโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกาตาร์ โดยระบุว่าผู้นำเหล่านั้น "จะไม่ได้รับภูมิคุ้มกันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน" โดยในการแถลงข่าวร่วมที่กรุงเยรูซาเล็มร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ  เนทันยาฮูกล่าวว่า ทุกประเทศมีสิทธิ์ "ในการป้องกันตนเองเกินขอบเขตพรมแดนของตนได้"

การตัดสินใจของอิสราเอลในการโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดกระแสประณามจากนานาชาติ รวมถึงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยกลุ่มฮามาสระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 6 คน แต่ผู้นำของกลุ่มรอดชีวิต

ถ้อยแถลงของเนทันยาฮูมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากทำเนียบขาวออกมาระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้คำมั่นกับกาตาร์ว่า "เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบนแผ่นดินของพวกเขา"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการโจมตีครั้งนั้นมีสหรัฐฯ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เนทันยาฮูตอบว่า "เราเป็นคนลงมือเองทั้งหมด"

ส่วนรูบิโอ ได้เรียกร้องให้กาตาร์ยังคงมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการแก้ไขความขัดแย้งในฉนวนกาซา โดยรูบิโอกล่าวว่า กาตาร์สามารถมีบทบาทช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการปล่อยตัวประกันทั้ง 48 คนที่ยังถูกควบคุมตัวในกาซา, การปลดอาวุธกลุ่มฮามาส และการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับชาวกาซา

ทั้งนี้ การพบปะของทั้งสองมีขึ้นในขณะที่ผู้นำชาติอาหรับกำลังจัดการประชุมสุดยอด เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อกาตาร์และตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล โดยนายกรัฐมนตรีกาตาร์ได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ ยุติพฤติกรรม “สองมาตรฐาน” และดำเนินการลงโทษอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีเมืองกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ อิสราเอลได้โจมตีและทำลายอาคาร อัล-เกฟารี (Al-Ghefari) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองกาซา ซิตี้ หลังจากได้มีการเตือนครอบครัวผู้พลัดถิ่นที่พักพิงอยู่ภายในและบริเวณใกล้เคียงให้อพยพออกไปก่อน

อิสราเอลระบุว่า อาคารดังกล่าวถูกใช้เป็นที่ซ่อนของ “โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มผู้ก่อการร้าย” แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตทันทีหลังเหตุการณ์

นวันเดียวกันนั้น อิสราเอลได้ทำลายอาคารหลายแห่งในเมืองกาซา ซิตี้ ซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น 

อิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการรุกเพื่อยึดครองเมืองกาซา ซิตี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการกำจัดกลุ่มฮามาสอย่างถาวร และอ้างว่าได้แจ้งเตือนพลเรือนให้อพยพลงใต้ ไปยังเขตมนุษยธรรมที่กำหนดไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติ (UN) และหลายประเทศมองว่า ยุทธวิธีของอิสราเอลเทียบเท่ากับการบังคับอพยพประชาชนเป็นจำนวนมาก และชี้ว่า สภาพความเป็นอยู่ในเขตมนุษยธรรมนั้นเลวร้าย โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง

ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบสองปีเพื่อต่อต้านกลุ่มฮามาส ได้คร่าชีวิตผู้คนในฉนวนกาซาไปแล้วมากกว่า 64,000 คน โดยความขัดแย้งนี้ปะทุขึ้นจากการที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีอิสราเอลในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันอีก 251 คน