วิกฤตยูเครน-เงินเฟ้อทำหุ้นโลกร่วง น้ำมันลดอีก

สถานการณ์วิกฤตในยูเครนยังคงส่งผลกระทบกับตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง หลังจากล่าสุดผลการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน และรัสเซียที่ประเทศตุรกีไม่มีความคืบหน้า บวกกับสถานการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่พุ่งสูงขึ้นถึง 7.9 เปอร์เซ็นต์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุมในสัปดาห์หน้าค่อนข้างจะแน่นอน ขณะที่ธนาคารกลายยุโรป (อีซีบี) ก็เตรียมที่จะยุติการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อเช่นกัน

ด้วยแนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตัวลดลงทั้งหมด โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 0.34 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 33,174.07 จุด เอสแอนด์พี500 ร่วงลง 0.43 เปอร์เซ็น ไปอยู่ที่ 4,259.52 จุด ขณะที่ แนสแดก ปรับตัวลง 0.95 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 13,129.96 จุด

ด้านตลาดหุ้นในเอเชียเปิดตลาดในเช้าวันที่ 11 มีนาคมปรับตัวลงเช่นกันโดยดัชนีเอ็มเอสซีไอ ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวลง 1.7 เปอร์เซ็นต์ ด้านฮ่องกง ฮั่งเส็ง ปรับตัวลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับนิคเคอิ225 ของญี่ปุ่นปรับตัวลง 2.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตลาดซีเอสไอของจีน ปรับตัวลง 1.3 เปอร์เซ็นต์

สำหรับราคาน้ำมันโลกยังคงมีความผันผวนหลังจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาปฏิเสธแถลงการณ์ที่ระบุว่าจะผลักดันให้องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปค) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อทดแทนการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของรัสเซียของชาติตะวันตก

นั่นส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลง0.4 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 105.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบร็นต์ปรับตัวลง 1 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 108.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำสป็อตเอ็กซ์เอยู ในวันนี้ราคาซื้อขายกันอยู่ที่ 1,995.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์