ไบเดนรับสหรัฐอาจตายเกิน 6 แสนศพ - ทหารในพิธีสาบานตนติดเชื้อ150นาย
โควิด: ไบเดนรับสหรัฐอาจตายเกิน6แสนศพ - วันที่ 23 ม.ค. เอเอฟพี และ รอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือ โควิด-19 ทั่วโลก ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา ชาติที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ยอมรับว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐอาจพุ่งสูงถึง 6 แสนรายอีกไม่นาน โดยรัฐบาลสหรัฐเพิ่งรวมศูนย์อำนาจใหม่เพื่อบริหารจัดการมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และการกระจายวัคซีนเบ็ดเสร็จ
คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกใกล้ทะลุ 100 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2,107,388 ราย สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสม 24,821,815 คน เสียชีวิตแล้ว 414,107 ราย ขณะที่บรรดารัฐต่างๆ เรียกร้องให้รัฐบาลกลางเร่งกระจายวัคซีนทั่วถึงโดยด่วน
ล่าสุด วัคซีน 5 แสนโดส ของรัฐนิวยอร์กหมดแล้ว ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังเพิ่มต่อเนื่องกว่า 4,000 คนต่อวันเป็นวันที่สาม สะท้อนคำเตือนผู้เชี่ยวชาญการเข้าสู่ช่วงอันตรายที่สุดของการระบาดรอบใหม่ในสหรัฐ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า ทหาร กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ที่รักษาความปลอดภัยในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีไบเดน ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก ระหว่าง 150-200 คน คาดว่าอาจเพิ่มขึ้นแต่ยังเป็นสัดส่วนน้อยจากจำนวนทหารทั้งหมดในพิธีดังกล่าวมากกว่า 25,000 คน
ขณะที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิออกแถลงการณ์ว่าจะไม่หารือถึงการมีผู้ติดเชื้อ แต่บุคคากรทหารปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) รวมถึงวัดอุณหภูมิร่างกายเมื่อออกจากรัฐบ้านเกิดและเมื่อมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมซักประวัติคัดกรองด้วย
สำหรับความเคลื่อนไหวในประเทศอังกฤษ ซึ่งเผชิญกับการระบาดรุนแรงเช่นกัน และส่งผลให้กรุงลอนดอนอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด ล่าสุด นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 ชนิดใหม่ที่ระบาดในอังกฤษนั้นอาจก่อโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น จากเดิมที่นักวิทยาศาสตร์พบว่าเพียงระบาดได้มากขึ้น ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) พบไวรัสซาร์ส 2 ชนิดใหม่แล้วในกว่า 60 ประเทศ
ขณะที่ดัชนีที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจ หรือ พีเอ็มไอ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของชาติยุโรปกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนทวีปละตินอเมริกามีปริมาณการซื้อขายสินค้ากับต่างประเทศลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเมื่อปี 2552 สะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกอาจยังไม่ฟื้นตัวในปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ไบเดนรัวเซ็น 15 คำสั่งบริหาร เลิกนโยบายทรัมป์ แม้ปลื้มจ.ม.น้อย