INSETงานอัพเกรด5Gจ่อ โชว์รายได้โค้งสามโต24%

ทันหุ้น - สู้โควิด – INSET งานอัพเกรดเสา 5G จ่อ หลังคว้างานเข้าพอร์ต200 ล้านบาท คาดบุ๊กเข้ากระเป๋าปีนี้ 20-30% มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าหรือโตไม่น้อยกว่า 10-15% โชว์รายได้ไตรมาส 3/63 แตะ 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% ส่วนกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% ส่งสัญญาณงานรอเพียบ แย้มมีศักยภาพรับงานได้อีกเท่าตัว

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีงานให้ทำต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทรับงานใหม่เข้ามามูลค่า 200 กว่าล้านบาท เป็นงานอัพเกรดเสา 5G ระยะเวลาการดำเนินงาจะอยู่ภายในไตรมาส 4/2563 ถึงไตรมาส 1/2564 สำหรับในไตรมาส 4/2563 นี้คาดจะทยอยส่งมอบงานและรับรู้เป็นรายได้ประมาณ 20-30% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในไตรมาส 1/2564

โชว์ผลงานสดใส

สำหรับภาพรวมทั้งปีนี้ บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,219.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 120.12 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 530 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้เท่ากับ 428 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 50 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,006 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 97 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ของโครงการต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง โดยในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ จากโครงการงานติดตั้งวงจรกรองสัญญาณย่านความถี่ 850 MHz ตามประกาศ กสทช.

คุมต้นทุนได้ดี

และโครงการสร้างศูนย์ Data Center แบบครบวงจร ให้กับบริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ซึ่งมูลค่ารับรู้ทั้ง 2 โครงการรวม 371.47 ล้านบาท ขณะเดียวกันที่ผ่านมาบริษัทมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ความสามารถอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีกประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานวางท่อร้อยสายไฟเบอร์ออฟติกส์ ขณะที่ Backlog ณ 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีงานอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ประมาณ 15-20% อีกทั้งบริษัทประเมินทิศทางปีหน้า หรือปี 2564 จะมีงานออกมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ 5Gประกอบกับการขยายศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อรองรับข้อมูลของหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆจะมีทิศทางเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมอลโอกาสจะได้งานตามการขยายตัวของงานทุกกลุ่มที่บริษัทเชี่ยวชาญ

พร้อมรับงาน

สำหรับทิศทางปริมาณงานที่จะมีออกมาเพิ่มขึ้นในปี 2564 บริษัทเตรียมความพร้อมทั้งด้านเงินทุน ความรู้ความสามารถของพนักงาน รวมถึงเทคโนโยลีใหม่สำหรับรองรับการดำเนินงานให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทมีความสามารถสำหรับรับงานใหม่ได้อีกเท่าตัว หรือเพิ่มขึ้นไปถึง 3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันรับงานได้ที่ระดับ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะรองรับงานที่มีออกมามากขึ้น พร้อมกันนี้หากดูจากทิศทางจำนวนงานที่มากขึ้น คาดรายได้ปี 2564 จะสามารถเติบโตได้อีก 10-15% จากปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงนโยบายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนการเติบโตระยะยาวให้มีความมั่นคง ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายโทรคมนาคม ประมาณ 50% , ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 40% และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring income) 10%