รีเซต

'อนุทิน' ยันปี'65 มีวัคซีนอย่างต่ำ 90 ล้านโดส สธ.วาง 4 เป้า 5 กลยุทธ์ 6 ตัวชี้วัด เปิดปท.

'อนุทิน' ยันปี'65 มีวัคซีนอย่างต่ำ 90 ล้านโดส สธ.วาง 4 เป้า 5 กลยุทธ์ 6 ตัวชี้วัด เปิดปท.
มติชน
18 พฤศจิกายน 2564 ( 18:21 )
33
'อนุทิน' ยันปี'65 มีวัคซีนอย่างต่ำ 90 ล้านโดส สธ.วาง 4 เป้า 5 กลยุทธ์ 6 ตัวชี้วัด เปิดปท.

ข่าววันนี้ 18 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. เปิดเผยภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ และรองรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. และ นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. ร่วมประชุม และมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ ผู้บริหาร สธ. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ในรูปแบบออนไซต์ (Onsite) ณ ศูนย์ประชุมโรงแรมเทพนคร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 200 คน และออนไลน์ 400 คน ว่า จากรายงานประจำวัน เห็นได้ว่าประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 86 ล้านโดส ยืนยันว่าปีนี้มีวัคซีนอย่างเพียงพอ สำหรับปีหน้าคาดว่าจะมีวัคซีนอย่างน้อย 90 ล้านโดส เป็น วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 60 ล้านโดส และวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส ไม่รวมวัคซีนโปรตีนโนวาแวกซ์ วัคซีนที่ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และวัคซีนคณะแพทย์ที่กำลังพัฒนากันอยู่ เพื่อให้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 กันถ้วนหน้า พร้อมกับการสำรวจภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง

 

“แต่สิ่งสำคัญคือ การทำความเข้าใจว่า การได้รับวัคซีนจะช่วยไม่ให้อาการของโรคทวีความรุนแรง และทำควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขั้นสูงสุด (แบบครอบจักรวาล) หรือ Universal Prevention เพื่อให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับข่าวว่ารัฐบาลฝรั่งเศสบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 400,000 โดส พร้อมส่วนผสมและไซลิงค์ให้กับไทย ซึ่งจะมีการจัดสรรวัคซีนต่อไป พร้อมกันนั้นต้องดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่แสดงความห่วงใยต่อคนไทย 11 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ด้วยความเชื่อ ความจำเป็น หรือเหตุสุดวิสัย ทางกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องทำงานเชิงรุกให้ประชาชนได้รับวัคซีนไม่เกินเดือนธันวาคม ตามสโลแกนที่ว่า ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายอนุทิน กล่าว

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.ใช้มาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ในกรณีที่ตรวจด้วยชุด ATK ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการให้ประชาชนดูแลที่บ้าน (Home Isolation) พร้อมด้วยการดูแลในระบบชุมชน (Community Isolation) ช่วยให้ควบคุมสถานการณ์ได้ จากการทำงานร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการเรื่องเวชภัณฑ์และยา ตามที่นายกฯ ดำริไว้ให้คนไทยเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ในทุกตระกูล และขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ลดความรุนแรงจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป

 

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี รัฐบาลจึงได้ประกาศนโยบายเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทาง สธ. ได้เตรียมความพร้อม ด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยจัดทำแผนปฏิบัติการ รองรับการเปิดประเทศ และการระบาดโควิด-19 พ.ศ.2565 ด้านสาธารณสุขขึ้น กำหนดทิศทางของแผนไว้ 4 เป้าหมาย 5 กลยุทธ์ และ 6 ตัวชี้วัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลอดจนเสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรม และเพื่อให้แผนปฏิบัติการฯ เป็นกลไกในการบริหารจัดการแบบบูรณาการ ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับจังหวัด ศบค. ได้มีข้อสั่งการให้ สธ. โดยกรมควบคุมโรค ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำไปพัฒนาแผนปฏิบัติการฯ ของแต่ละจังหวัดให้สมบูรณ์ เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง