ญี่ปุ่นยุติภารกิจ "ยานสำรวจอาคัตสึกิ" หลังทำภารกิจสำรวจดาวศุกร์ยานนานกว่ากำหนดเดิม 3 เท่า

องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 28 ตุลาคม ว่ายานสำรวจอวกาศอาคัตสึกิ (Akatsuki) หรือที่รู้จักในชื่อ Venus Climate Orbiter ได้สิ้นสุดภารกิจแล้ว การประกาศดังกล่าวมีขึ้นกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ยานสำรวจสภาพอากาศดาวศุกร์นี้ไม่ตอบสนองต่อการเรียกจากศูนย์ควบคุมภารกิจ JAXA ได้สูญเสียการติดต่อกับยานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2024 หลังจากที่มีปัญหาการสื่อสารมาประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
การสิ้นสุดภารกิจของยานอาคัตสึกิถือเป็นการสูญเสีย ภารกิจสำรวจดาวศุกร์ที่ยังคงปฏิบัติการอยู่ของมนุษยชาติเป็นลำสุดท้าย
ความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้และการยืดอายุภารกิจ
ยานอาคัตสึกิที่มีมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9,700 ล้านบาท ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศในปี 2010 โดยมีเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจสภาพภูมิอากาศของดาวศุกร์
อย่างไรก็ตาม ยานต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญเมื่อเครื่องยนต์หลักเกิดความล้มเหลวระหว่างทาง ทำให้ยานพลาดโอกาสในการจุดระเบิดเพื่อเข้าสู่วงโคจรดาวศุกร์ในความพยายามครั้งแรก
แต่ภารกิจนี้กลับอยู่รอดได้อย่างเหลือเชื่อนานพอที่จะพยายามเข้าสู่วงโคจรครั้งที่สองในปี 2015 หลังจากที่โคจรรอบดวงอาทิตย์มานานถึง 5 ปี ทีมงานต้องใช้ความสามารถในการแก้ปัญหาโดยองค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA ระบุว่าพวกเขาบังคับให้เครื่องขับดัน (Thrusters) ที่มีกำลังน้อยกว่า ซึ่งปกติใช้สำหรับการควบคุมทิศทางเท่านั้น
องค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA กล่าวว่า "การเข้าสู่วงโคจรไม่เคยทำสำเร็จด้วยวิธีการเช่นนี้มาก่อน แต่การสำรวจก็เป็นเรื่องของการกำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสมอ"
ยานอาคัตสึกิสามารถเข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จและปฏิบัติการสำรวจดาวศุกร์ต่อไปเกือบหนึ่งทศวรรษ โดยยานมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าที่ออกแบบไว้ 4.5 ปี หรือสามเท่าของกำหนดการเดิม
องค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA ระบุว่า ภารกิจนี้ได้ "เปลี่ยนมุมมองของเราเกี่ยวกับดาวเคราะห์เพื่อนบ้านขนาดเท่าโลก และปูทางไปสู่การค้นพบใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดสวรรค์หรือนรก" ซึ่งหมายถึงพื้นผิวของดาวศุกร์ที่มีแรงดันสูงและอุณหภูมิสูงมากเมื่อเทียบกับโลก
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ
ในฐานะยานโคจร ยานอาคัตสึกิได้มุ่งเน้นไปที่ชั้นเมฆของดาวศุกร์ซึ่งอยู่สูงจากพื้นผิวประมาณ 50 ถึง 70 กิโลเมตร หรือ 30 ถึง 43 ไมล์ ในชั้นบรรยากาศนี้มีลมพัดด้วยความเร็วที่เรียกว่า "การหมุนเร็วเกินไป (Super rotation)"
โดยมีความเร็วใกล้เคียงกับรถไฟชินคันเซ็น หรือเร็วกว่าการหมุนของดาวเคราะห์ถึง 60 เท่า แม้ว่าเมฆจะหมุนรอบดาวศุกร์โดยเฉลี่ยในเวลาประมาณสี่วันของโลก แต่การหมุนที่ช้ามากของดาวศุกร์ทำให้หนึ่งวันของดาวศุกร์เท่ากับ 243 วันของโลก
ยานอาคัตสึกิได้ก้าวหน้าในการเรียนรู้เกี่ยวกับการหมุนเร็วเกินไป โดยการวิเคราะห์ของนักวิจัยเผยให้เห็นว่า ความเร่งของเมฆขึ้นอยู่กับเวลาสุริยะท้องถิ่น ซึ่งบ่งชี้ว่าความเร็วในการหมุนที่น่าทึ่งนี้ถูกรักษาไว้โดยความร้อนจากดวงอาทิตย์
การค้นพบนี้มีนัยสำคัญสำหรับชีวิตนอกโลก JAXA ชี้ว่า ดาวเคราะห์นอกระบบจำนวนมากอาจถูกล็อคตามแรงดึงดูด (Tidally locked) ซึ่งหากไม่มีกลไกในการกระจายความร้อน อากาศในด้านกลางคืนของดาวเคราะห์ดังกล่าวจะแข็งตัวและทำให้ชั้นบรรยากาศยุบตัวลงทั่วโลก
แต่หากการหมุนของชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ที่รวดเร็วนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานความร้อนจากดวงดาว นั่นอาจเป็น กลไกทั่วไปที่สามารถกระจายความร้อนได้เร็วพอ เพื่อรักษาชั้นบรรยากาศของโลกที่ถูกล็อคตามแรงดึงดูด
นอกจากนี้ ภารกิจยังค้นพบคุณลักษณะคล้ายคันธนูในชั้นบรรยากาศที่คงอยู่เป็นเวลาอย่างน้อยสี่วันของโลก ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าเป็นผลมาจากภูเขาบนดาวศุกร์ที่ทำให้ก๊าซชั้นบรรยากาศล่างเคลื่อนตัวสูงขึ้นเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง (Gravity wave) ในระดับที่สูงกว่าที่สังเกตบนโลก
ตลอดระยะเวลาภารกิจ ยานอาคัตสึกิสร้างผลงานทางวิชาการได้ถึง 178 ฉบับ และยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยานเปิดตัวพร้อมเครื่องมือ 6 ชิ้น โดยมีเครื่องมืออินฟราเรดสองตัวหยุดทำงานหลังจากเข้าสู่วงโคจรได้ประมาณหนึ่งปี แต่เชื่อว่าสี่ชิ้นที่เหลือยังคงทำงานได้ดีเมื่อขาดการติดต่อไป
แผนการในอนาคตและความเสี่ยงด้านงบประมาณ
องค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA ยืนยันว่าการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวศุกร์ยังคงต้องอาศัยภารกิจใหม่ ๆ และในปัจจุบันก็มีภารกิจอื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการวางแผน เช่น
ภารกิจ DAVINCI ขององค์การ NASA ซึ่งออกแบบมาเพื่อเจาะชั้นบรรยากาศ, ภารกิจ VERITAS ขององค์การ NASA เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวและภายใน รวมไปถึงภารกิจ EnVision ขององค์การอวกาศยุโรป ESA ซึ่งเป็นยานโคจรเพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศ ภายใน และพื้นผิวของดาวศุกร์
อย่างไรก็ตาม ภารกิจขององค์การ NASA ทั้ง DAVINCI และ VERITAS กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุน เนื่องจากคำของบประมาณองค์การ NASA ประจำปี 2026 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้ลดงบประมาณหน่วยงานลงถึง 24% และยกเลิกภารกิจทางวิทยาศาสตร์หลายสิบรายการ
ชะตากรรมของภารกิจเหล่านี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักการเมืองในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลง (Government shutdown) ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงเรื่องเงินทุนสำหรับปีงบประมาณใหม่ได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
