รีเซต

สุดเวทนา! ลุงพิการขาขาดปีนบันไดข้ามกำแพงสูง 4 เมตรเข้าบ้านนานกว่า 10 ปี

สุดเวทนา! ลุงพิการขาขาดปีนบันไดข้ามกำแพงสูง 4 เมตรเข้าบ้านนานกว่า 10 ปี
มติชน
27 กันยายน 2565 ( 18:00 )
72
สุดเวทนา! ลุงพิการขาขาดปีนบันไดข้ามกำแพงสูง 4 เมตรเข้าบ้านนานกว่า 10 ปี

วันที่ 27 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก สท.วินัย นาคนิวงค์ และ สท.เหนียม สุทธิยา สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสระบุรีว่า พบลุงพิการขาด นั่งรถสามล้อโยกเอง เข้าไปในโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี จากนั้นต้องปีนข้ามกำแพงที่สูงถึง 4 เมตร เพื่อที่จะเข้าไปในบ้าน ของตนเองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง เป็นที่น่าเวทนา และสงสารเป็นยิ่งนัก เกรงว่าจะพลัดตกลงมา ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ ยังบริเวณโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี ม.4 ซ.เกาะเย็น ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี พบนาย สิริชัย วรรณคำ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 83/1 ม.4 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี กำลังนั่งบนรถสามล้อโยก เพื่อที่จะเข้าไปภายในบ้าน

จึงได้สอบถาม และขอดูการเข้าบ้านด้วยการปีนข้ามกำแพงสูง 4 เมตรในขณะที่มีไม้ค้ำทั้ง 2 ข้าง โดยนาย สิริชัย ได้พาผู้สื่อข่าว ไปยังบ้านของตนเอง โดยการโยกรถ เข้ามาจอดตรงป่ากล้วย ภายในโรงฆ่าสัตว์ จากนั้นได้เดินลงจากรถโดยใช้ไม้ค้ำมา พาไปยังกำแพงที่มีบันไดพาด (ซึ่งเป็นบันไดที่ทาง สท.วินัย และ สท.เหนียมทำให้ใหม่ เนื่องจากบันไดเก่าไม้เริ่มผุพังเกรงว่าจะหัก)ไปยังกำแพงที่สูง จากนั้นได้ใช้ไม้เท้าเข้าคู่กัน ค้ำยันไปที่บันได้ จากนั้นก็ได้โยกตัวขึ้นไปทีละขั้นๆ จนถึงขอบกำแพง จากนั้นก็ได้ก็ลงด้วยการใช้เท้าเหยียบ และถัดก้นลงมาทีขั้น และเดินเข้าบ้าน ซึ่งสภาพบ้าน เป็นสภาพเป็นพื้นไม้กระดานยกสูง (ใกล้จะพัง)หลังคามุงด้วยสังกะสีที่ผุพัง ไม่มีฝาบ้าน มีเพียงกำแพงปูนล้อมรอบบ้าน ไม่มีทางเข้าออกบ้านได้ ข้าวของเครื่องใช้ มีเพียงหม้อข้าวเล็กๆ ถ้วยชาม และหม้อที่ดำเป็นตอตะโก ห้องน้ำก็โล่งโปร่งไม่มีการกั้นปิดมิดชิด

สอบถามนาย สิริชัย เล่าว่าสาเหตุที่ตนพิการขาดเนาองจากว่า เมื่อ 20 ปีก่อนตนได้ประสบอุบัติเหตุ ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง จากนั้นภรรยาของตนได้ไปมีสามีใหม่ ปล่อยให้ตนเองอยู่บ้านคนเดียวโดยตนได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ของตน เป็นที่เศษจากการเวนคืนพื้นที่ทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก เมื่อ 10 กว่าปีก่อนตนได้อาศัยเข้าออกได้ทุกทางจากนั้นเจ้าของที่ได้มาก่อกำแพงที่ที่ของเขา ตนจึงได้อาศัยออกทางโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งแต่ก่อน ได้เปิดช่องทางให้ตนเข้าออกได้ แต่ต่อมาได้ปิดช่องทางเข้าออก ตนจึงต้องทำบันได ขึ้น-ลง กำแพงเอง โดย 1-2 เปลี่ยนทีเนื่องจากไม่ผุ โดยได้ปีนขึ้น-ลงมาเป็นเวลาร่วม 10 ปีแล้ว เกรงว่าวันไดวันหนึ่งเกิดพลาดอาจพลัดตกลงมาเสียชีวิตได้ เนื่องจากไม่มีใครเห็นตน ส่วนลูกของตนมี 1 คนตอนนี้แยกไปมีครอบครัวแล้ว ซึ่งก็จะมาหาบ้าง เดือน สองเดือนมาสักครั้ง ซึ่งแต่ก่อนตนจะติดต่อคนก็จะใช้โทรศัพท์ แต่ตอนนี้โทรศัพท์ใช้ไม่ได้เนื่องจากตกน้ำเสีย ขณะที่ตนออกไปปักเบ็ดหาปลามาเลี้ยงชีพ ซึ่งตอนนี้ตนเองอยากได้บ้านใหม่ ซึ่งตอนนี้ผุพังมากแล้ว ไม่ฝาบ้าน เวลาฝนตกลงมาก็สาดเข้าใส่ ซึ่งตนเองก็ต้องทนอยู่มาตลอด

ส่วนทางเข้า-ออกตนก็อยากได้ ก็ไม่รู้จะไปร้องกับใคร และทำอย่างไร คือตอนที่สร้างโรงฆ่าสัตว์ใหม่ๆตนก็ได้ไปร้องขอทางสัตว์แพทย์ ก็เปิดให้ใช้อยู่สักพัก ต่อมาได้มี ผอ.ทางเทศบาลได้มาสั่งให้ปิดทาง ทำให้ตนเองไม่มีทางเข้าออกไปข้างนอกได้ เคยขอไปหลายครั้งแล้วก็ยังไม่มีการอนุมัติไดๆ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ของ อบต.ปากข้าวสาร (นาย สิริชัย ได้ยกมือขึ้นพนมมือไหว้โดยวิงวอนผ่านสื่อว่า อยากขอทางเข้าออกให้หน่อยครับนายก นายกขอทางเข้าออกหน่อยครับ ไม่อยากปีนกำแพงแล้วครับ)

ทางด้าน สท.วินัย นาคนิวงค์ สมาชิกเทศบาลเมืองสระบุรี เผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเองและ สท.เหนียม สุทธิยา ได้เข้ายังโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี เพื่อมาตรวจเยี่ยมในเรื่องของน้ำท่วม จากนั้นได้พบกับลุง สิริชัย โดยเห็นว่าได้โยกรถเข้ามาในโรงฆ่าสัตว์ จึงได้สอบถามว่าจะไปไหน โดยลุงสิริชัย บอกว่ามีบ้านอยู่ในนี้ ซึ่งตนก็มองดูแล้วว่าไม่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในนี้เลย โดยลุง สิริชัย บอกว่าบ้านอยู่ข้างกำแพง แต่ต้องปีนข้ามกำแพงไปบ้าน ซึ่งตนเห็นแล้วรู้สึกหดหู่มาก ว่ามีผู้สูงอายุ และพิการขาขาดต้องมาปีนข้ามกำแพงสูง 4 เมตรนานกว่า 10 ปี จึงเกิดความสงสารได้ปรึกษากันว่าจะหาวิธี และทางไหนช่วยลุงได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง