รีเซต

สลด 2เด็กหญิง ติดโควิด ถูกไล่พ้นชุมชน นอนป้อมร้าง รอความช่วยเหลือ

สลด 2เด็กหญิง ติดโควิด ถูกไล่พ้นชุมชน นอนป้อมร้าง รอความช่วยเหลือ
ข่าวสด
15 กรกฎาคม 2564 ( 08:56 )
50
สลด 2เด็กหญิง ติดโควิด ถูกไล่พ้นชุมชน นอนป้อมร้าง รอความช่วยเหลือ

 

สลด 2 เด็กหญิง ติดโควิด ถูกกดดันไล่ออกจากชุมชน ให้มาอาศัยนอนรอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจร้าง ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้าน เจ้าหน้าที่รุดช่วย เจออีกเคส

 

 

วันที่ 15 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดเผยข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก เรารักแปดริ้ว จากเด็กหญิงวัย 14 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 โดยระบุข้อความว่า ตนเองและเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ยังไม่มีเตียงรักษา และถูกไล่ออกมาจากชุมชน ให้มานอนรอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจร้าง หน้า อบต.บางแก้ว โดยทราบผลตรวจว่าติดเชื้อเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ มาอาศัยอยู่กับญาติ เลยต้องแยกตัวออกมานอนที่ป้อม

 

 

โดยเด็กหญิงคนดังกล่าว อยู่ในอาการหวาดกลัว ระบุว่าอยากได้เตียงเพื่อเข้ารักษา เนื่องจากตนเองเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยและท้องเสีย ก่อนที่เพจเรารักแปดริ้วได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสก๊อต หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และทราบเรื่องว่าได้รับการสั่งการจากโรงพยาบาลพุทธโสธร ให้เข้าไปช่วยเหลือรับตัวไปยังโรงพยาบาล

 

 

 

 

2 เด็กหญิง ติดโควิด ถูกกดดันไล่ออกจากชุมชน ให้มาอาศัยนอนรอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจร้าง ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

 

กระทั่งเวลา 20.30 น.ของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชุดสก๊อต) หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าช่วยเหลือ 2 เด็กหญิง ที่รอคอยอยู่ภายในป้อมตำรวจร้าง หน้า อบต.บางแก้ว ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบผู้ป่วยหญิงติดโควิด-19 มานอนพักอาศัยอยู่คนละห้องภายในป้อม ทราบชื่อคือ น.ส.สมคิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้งหมดเก็บสิ่งของเครื่องนอนและเสื้อผ้าที่เตรียมมา รอขึ้นรถนำไปส่งยังโรงพยาบาลสนามบางคล้า ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏ ศูนย์บางคล้า

 

 

จากการสอบถาม ด.ญ.เอ เปิดเผยว่า ตนถูกคนในชุมชนกดดัน ให้ผู้นำชุมชนนำตนมานอนนอกหมู่บ้าน ยังป้อมร้างแห่งนี้ สาเหตุเกิดจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา สามีของตนอายุ 38 ปี ติดโควิด-19 และมีรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวไปโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ ซึ่งตนและลูกติดของสามีวัย 10 ปี ทราบผลในช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา

 

 

ด.ญ.เอ กล่าวต่อว่า ทำให้พฤติกรรมของคนในชุมชนเปลี่ยนไป กดดันให้ผู้นำในชุมชนมาย้ายตนออกมานอกชุมชนพร้อมกับด.ญ.วัย 10 ขวบ โดยตนก็เป็นห่วงคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน อาจจะติดเชื้อจากตน จึงยอมแยกออกมากักตัว ก่อนที่ ส.อบต.จะนำตนและลูกเลี้ยงนั่งท้ายรถกระบะมาส่งให้นอนที่ป้อมแห่งนี้ ซึ่งเราพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพจเรารักแปดริ้ว และหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากเริ่มมีอาการไม่สู้ดี

 

 

 

 

ด้าน น.ส.สมคิด พอเจอเจ้าหน้าที่กู้ภัย หญิงคนดังกล่าวตะโกนบอกว่า เมื่อกี้ทาง อบต.โทรศัพท์มาต่อว่า โดยนึกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นเจ้าหน้าที่ของทาง อบต. แต่พอเจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่ามาช่วย คืนนี้ป้าต้องมีที่นอน ทำให้หญิงคนดังกล่าว เริ่มอ่อนลง พร้อมตัดพ้อว่า ห้องที่ตนเองมากักตัวอยู่นี้ไม่มีความปลอดภัย หน้าต่างบานกระจกก็ไม่สามารถล็อกได้ ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะเดินเข้าไปเก็บสัมภาระที่เตรียมมา เพื่อขึ้นรถไปยังโรงพยาบาลสนาม

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง