คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ วงเงินลงทุนเฟสแรก 19,000 ล้านบาท
TNN Wealth
22 มีนาคม 2565 ( 16:58 )
325
คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ วงเงินลงทุนเฟสแรก 19,000 ล้านบาท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยศูนย์กลางธุรกิจอีอีซี อยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบสนามบินอู่ตะเภา ที่จะพัฒนาเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก โดยตั้งเป้าจะเป็นเมืองใหม่อัจฉริยะ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
เป้าหมายของเมืองใหม่และศูนย์ธุรกิจอีอีซีได้รวบรวมที่ดิน สปก. บางละมุง จ.ชลบุรี ไว้แล้วประมาณ 14,619 ไร่ หรือประมาณ 15,000 ไร่ ห่างจากสนามบินอู่ตะเภา 15 กิโลเมตร มีธุรกิจ 5 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย ศูนย์สำนักงานใหญ่ของบริษัทนภูมิภาคและสถานที่ราชการ ศูนย์การเงินอีอีซี ศูนย์การพแพทย์แม่นยำเฉพาะด้าน ศูนย์การศึกษาวิจัย และธุรกิจพลังงานสะอาดและดิจิทัล
แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนทุกลุ่มรายได้ 3,000 ไร่ มีตำแหน่งงาน ประมาณ 2 แสนตำแหน่ง พื้นที่สีเขียว 30 % และพื้นที่ใช้สอย 70 %
โครงการนี้จะเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในช่วง 10 ปี มูลค่าการลงทุนทั้งโครงการประมาณ 1.34 ล้านล้าน ภาครัฐจะลงทุน 3 % ที่เหลือเป็นรูปแบบการลงทุน PPP โดยผลการตอบแทนการลงทุนของรัฐ จะมาจากค่าเช่าที่ดิน ค่าส่วนกลาง และส่วนแบ่งรายได้จากระบบ PPP
สำหรับมูลค่าการลงทุนรวมของโครงการ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ 37,674 ล้านบาท ,สำนักงานอีอีซี 28,541 ล้านบาท เช่นค่าเวนคืนที่ดิน เตรียมโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ,ภาครัฐอื่น ๆ ลงทุน 9,133 ล้านบาท ,การลงทุนแบบ PPP ในโครงการประเภทสาธารณูปโภคในเมือง ระบบขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 131,119 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนจากเอกชนในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ประมาณ 1,180,808 ล้านบาท
โดยใน 3 ปีแรก ปี 2565-2567 รัฐจะใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและการจัดสรรที่ดิน ประมาณ 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุน 19,000 ล้าน ดอกเบี้ย 4,000 ล้าน คาดว่าภายใน 10 จะคืนเงินส่วนนี้ให้กับรัฐบาล พร้อมดอกเบี้ย
สำหรับวาระที่เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ภายใต้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 มาตรา 6 (5) ระบุว่า พื้นที่อีอีซี จะต้องมีการพัฒนาเมืองให้มีความทันสมัยระดับนานาชาติที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย และประกอบกิจการอย่างมีคุณภาพ
อาศัยอำนาจตามมาตรา 34 ที่ระบุไว้ว่า กรณีมีความจำเป็นต้องได้มาซึ่งที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเขตอีอีซี ให้สำนักงานมีอำนาจดำเนินการโดยวิธีการจัดซื้อ เช่า เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เวนคืน หรือโดยวิธีการอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
และการใช้ที่ดิน สปก. ในมาตรา 36 บัญญัติไว้ว่า กรณีมีความจำเป็นเพื่อการพัฒนาอีอีซี คณะกรรมการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจให้สำนักงานเข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ได้มาตามกฏหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อการดำเนินการหรือประกอบกิจการอื่นใด นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกฏหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้โดยไม่ต้องดำเนินการเพิกถอนเขตปฏิรูปที่ดินสำหรับที่ดินส่วนนั้น
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<