“ลัตเวีย” เสริมแกร่งชายแดน เตรียมติดระบบสกัดกั้น “โดรน” อัตโนมัติ

กองกำลังป้องกันประเทศของสาธารณรัฐลัตเวีย (Latvia) ประกาศการเริ่มติดตั้งระบบสกัดกั้นโดรนแบบอัตโนมัติ (autonomous drone interception systems) ตามแนวชายแดนด้านตะวันออกภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นโดรนและเป้าหมายทางอากาศอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง

ระบบดังกล่าวได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย ออริจิน โรโบติกส์ (Origin Robotics) บริษัทเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติขั้นสูงของลัตเวีย และ เดฟเซคอินเทล (DefSecIntel) ผู้พัฒนาระบบการควบคุมและแพลตฟอร์มการเฝ้าระวังอัตโนมัติ จากประเทศเอสโตเนีย 

ระบบนี้ทำงานโดยการใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากเรดาร์และเซ็นเซอร์ของระบบเตือนภัยล่วงหน้า แอร์ชิลด์ (Eirshield) ซึ่งเป็นการผสานรวมความสามารถในการตรวจจับด้วยเรดาร์ เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งข้อมูลไปยังระบบ บลาซ (BLAZE) ซึ่งจะทำการติดตามและทำลายภัยคุกคามทางอากาศที่กำลังเข้ามาโดยอัตโนมัติ

ทีมพัฒนากล่าวว่าระบบนี้ใช้ข้อมูลเรดาร์เพื่อค้นหาเป้าหมายในอากาศ ติดตามเป้าหมายเหล่านั้น จากนั้นจะมีการขอให้ผู้ควบคุมยืนยันการสกัดกั้น โดยระบบจะทำการติดตามเป้าหมายและจุดชนวนหัวรบในระยะใกล้ หรือโจมตีด้วยตนเอง

การเผยแผนติดตั้งระบบสกัดกั้นโดรนของลัตเวีย เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศสมาชิกนาโต้ (NATO) ตกอยู่ในภาวะเฝ้าระวังสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีการพบเห็นโดรนและการรุกล้ำทางอากาศอื่น ๆ ทั้งที่ฐานทัพทหารเบลเยียม สนามบินในโคเปนเฮเกน มิวนิก และในภูมิภาคบอลติก

ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) การรุกล้ำน่านฟ้าของโดรนรัสเซียและการละเมิดน่านฟ้าของประเทศสมาชิกนาโตในยุโรปเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน โดยโดรนรัสเซียกว่า 20 ลำได้เข้าสู่น่านฟ้าโปแลนด์ และเครื่องบินรบรัสเซีย 3 ลำละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนียเป็นเวลา 12 นาที

แผนติดตั้งระบบสกัดกั้นโดรนของลัตเวีย จึงแสดงให้เห็นถึงยุคใหม่ของเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่น่าจับตา โดยเปลี่ยนจากการพึ่งพาการควบคุมของมนุษย์ ไปสู่การใช้งานปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งกำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญ ของความมั่นคงและกลยุทธ์ทางทหารในยุคปัจจุบัน