ทรัมป์เล็งถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน แม้เหลือวาระปธน.อีกเพียง63วัน
ทรัมป์เล็งถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน - วันที่ 17 พ.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกสำหรับปฏิบัติการโจมตีโรงงานเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมในประเทศอิหร่าน แม้เหลือวาระดำรงตำแหน่งอีกเพียง 63 วัน
รายงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก นิวยอร์กไทมส์ หนึ่งในสื่อทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ถามบรรดาที่ปรึกษาถึงทางเลือกหากมีการเปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อโจมตีโรงงานเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมของอิหร่าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นิวยอร์กไทมส์ อ้างแหล่งข่าวจากบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงและอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ 4 คน ระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งเป็นห้องทำงานของผู้นำสหรัฐฯ ในทำเนียบขาว ที่กรุงวอชิงตัน
โดยประธานาธิบดีทรัมป์เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาหลังทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เปิดเผยรายงานตรวจสอบพบว่าทางการอิหร่านเดินหน้าเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรนียมจนมีปริมาณมากเกินกว่าที่จำกัดไว้เป็น 12 เท่าแล้ว
รายงานระบุว่า ปริมาณแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถภาพที่อิหร่านมีได้นั้นถูกกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 300 กก. ตามแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จ หรือเจซีพีโอเอ ซึ่งเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ 5 ชาติ+1 หรือพี5+1 ได้แก่ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐฯ ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เมื่อปี 2558
ต่อมาในปี 2561 ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาว่า อิหร่านลักลอบเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียม และประกาศถอนตัวออกจากเจซีพีโอเอเพียงฝ่ายเดียว แม้อิหร่านจะยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา ท่ามกลางเสียงทัดทานจากชาติผู้ลงนามรายอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ถามคณะที่ปรึกษาว่ามีทางเลือกการตอบโต้ใดบ้างที่สหรัฐฯสามารถทำได้ โดยผู้ที่เข้าร่วมประชุม อาทิ รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอกมาร์ก มิลเลย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วม
รายงานระบุว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้พยายามทัดทานไม่ให้ประธานาธิบดีทรัมป์เลือกตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหาร เนื่องจากอาจลุกลามกลายเป็นสงครามใหญ่ในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังจะพ้นวาระอีกเพียง 63 วัน
แหล่งข่าวภายในทำเนียบขาว ระบุว่า ภายหลังการหารือแล้วคณะที่ปรึกษาจึงออกมาจากห้องทำงานรูปไข่ แต่หลายคนยังกังวลว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจพิจารณาตอยโต้อิหร่านด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธครุยส์เพื่อทำลายโรงงานเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมของอิหร่าน
ทั้งนี้ การถอนตัวของสหรัฐฯจากเจซีพีโอเอและกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อปี 2561 ส่งผลให้ทางการอิหร่านตอบโต้ด้วยการประกาศเดินเครื่องการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมทันที
ต่อมาอิหร่านประกาศถอนตัวบางส่วนจากเจซีพีโอเอเมื่อเดือนพ.ค. 2562 ท่ามกลางความพยายามในการเจรจาต่อรองจากรัสเซีย จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี เพื่อให้เจซีพีโอเอคงสถานะการบังคับใช้