รีเซต

ราชกิจจาฯ กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

ราชกิจจาฯ กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
TNN ช่อง16
31 ตุลาคม 2566 ( 21:52 )
77
ราชกิจจาฯ กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

ราชกิจจาฯ กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน


วันที่ 31 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ลงนามโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีเนื้อหาดังนี้


ด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ โดยพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ถูกกำหนดให้เป็นกฎหมายตามบัญชี 1 (ลำดับที่ 169) ท้ายพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้รักษาการ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 จะต้องดำเนินการประกาศกำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ที่จะมีอำนาจปรับเป็นพินัย


อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกประกาศกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ในความผิดทางพินัยตามความในมาตรา 72 วรรคสี่ มาตรา 76 มาตรา 80 มาตรา 81 มาตรา 82 มาตรา 83 มาตรา 84 และมาตรา 85 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490


(1) ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง หรือผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่มงาน เจ้าพนักงานปกครอง หรือนิติกร ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการขึ้นไป ในสังกัดสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร


(2) นายอำเภอ หรือปลัดอำเภอ ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการขึ้นไป เฉพาะในพื้นที่ของตนสำหรับในจังหวัดอื่น


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566



สำหรับ มาตรา 72  คือ  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ถ้าการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง หรือเป็นกรณีมีเครื่องกระสุนปืนผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ




อ่านฉบับเต็ม https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/11346.pdf

ข่าวที่เกี่ยวข้อง