สสจ.เผยกรณีล่าสุดพบชาวเยอรมันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่หลังมาหาญาติที่ชัยภูมิ

ชัยภูมิ – มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 30 เม.ย.- 16 พ.ค.63 ก่อนที่ชาวเยอรมันรายนี้จะเดินทางกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมเข้าทำงานเมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ล่าสุดไปตรวจพบเชื้อโควิด -19 เพิ่มอีกเป็น 1 ใน 3 ราย ใหม่ล่าสุดของประเทศไทยวันนี้ และถูกนำตัวไปรักษาอยู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ กทม.แล้วนั้น ล่าสุด สสจ.ชัยภูมิเผย!

เมื่อช่วงเวลา 13.00 น.วันที่ 21 พ.ค.63 นายแพทย์วชิระ  บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ( สสจ.ชัยภูมิ ) และโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็น 1 ใน 3 รายล่าสุดของประเทศไทยวันนี้ (21 พ.ค.63) ซึ่งเป็นชายสัญชาติเยอรมัน อายุ 42 ปี ซึ่งไม่มีโรคประจำตัว มีประวัติว่าเดินทางมาที่จ.ชัยภูมิ เพื่อหาภรรยาชาวอ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.63 – 16 พ.ค.63 ซึ่งมีญาติ 1 คน คือภรรยาชาวต่างชาติรายนี้ที่เป็นชาวชัยภูมิมีอาการไข้คอแห้ง แต่ไม่ได้ตรวจรักษาเพราะประวัติก็ไม่มีการเจ็บป่วยอะไรมาก และพากันเดินทางไปที่ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิเพื่อไปหาซื้อเนื้อมาทำหมูกะทะรับประทานในครอบครัวกัน

จากนั้นชาวต่างชาติเยอรมันรายนี้ ได้เดินทางกลับไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะเข้าทำงานในวันที่ 18 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัวอยู่ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ที่กทม.อยู่ในขณะนี้

นายแพทย์วชิระฯ กล่าวว่า ผลตรวจที่ออกมาจากรพ.เอกชน ตอนนี้ต้องรอผลตรวจยืนยันจากห้องแล็ปของกระทรวงสาธารณสุขยันยืนออกมาอีกครั้งก่อน ซึ่งกรณีรายนี้อาจจะไม่พบเชื้ออีกตามมาก็ได้ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่พบอาการอะไรเลย ในขณะที่อยู่จ.ชัยภูมิ กับญาติก็ร่วม 18 วัน ระหว่างตั้งแต่ 30 เม.ย.63 – 18 พ.ค.63 ซึ่งอาจมีความคาดเคลื่อนของผลตรวจที่ออกมาจาก รพ.เอกชนได้ ซึ่งต้องรอยืนยันผลตรวจอีกครั้งและน่าจะรู้ผลไม่เกินพรุ่งนี้ได้ชัดเจนอีกครั้ง

ส่วนประวัติผู้ใกล้ชิด ตัวภรรนยาชาวต่างชาติรายนี้ที่เป็นชาวชัยภูมิเอง ที่เคยมีอาการไข้นั้น ล่าสุดผลตรวจร่างกายยืนยันไม่พบเชื้อโควิด-19 ในส่วนของตัวภรรยา รวมทั้งได้เฝ้าระวังให้ญาติทุกคนที่เกี่ยวข้องกว่า 15 คน ทั้งหมดมาตรวจและช่วยกันป้องกันไว้ก่อนในการกักตัวอยู่ที่รพ.ไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งส่วนประวัติการเดินทางไปห้างต่างๆ นั้น ก็เชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ เพราะทุกห้างในพื้นที่มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่เข้มงวดที่ดีอยู่แล้วในขณะนี้ และไม่น่าจะมีปัญหาในการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้