ไฟป่าสหรัฐยังโหมหนัก บ้านนับพันหลังเสี่ยงถูกเผาวอด

วันนี้( 23 ก.ย.63) ไฟป่ายังคงลุกลามผ่านบริเวณเทือกเขาไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นทะเลทรายของลอสแอนเจลีส เสี่ยงที่จะไหม้บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 1,000 หลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั่วภาคตะวันตกของสหรัฐ ก็ยังคงต่อสู้กับไฟป่าจุดใหญ่ๆหลายสิบจุด 

โดยไฟป่าบ๊อบแคท (Bobcat Fire) ในพื้นที่ตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย กำลังไหม้ลามกินพื้นที่ประมาณ 1.6-3.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนในเมืองเพิร์ลบลอสซั่ม ในเขตทะเลทรายโมฮาวี หลังจากไหม้ลามเข้าสู่หุบเขาแอนทีโลป คนละฟากเทือกเขาซานเกเบรียลกับเมืองลอสแอนเจลีส

ไฟป่า ซึ่งเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กันยายน ทำลายหรือสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนแล้วอย่างน้อย 29 หลัง และคาดว่าจำนวนอย่างเป็นทางการจะเพิ่มขึ้นเป็น 85 หลัง เมื่อการตรวจนับของเจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินความเสียหาย เสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ยังคงต่อสู้กับไฟป่าใกล้เทือกเขาวิลสัน ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองลอสแอนเจลีส และหอดูดาวประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นมากว่า 100 ปีก่อน ผลการศึกษาหลายชิ้นในช่วงหลายปีมานี้ แสดงให้เห็นว่า ไฟป่าในสหรัฐที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อนจากการเผาไหม้ของถ่านหิน, น้ำมันและแก็ส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียประสบปัญหาสภาพอากาศแห้งแล้งมากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ต้นไม้สามารถติดไฟได้ง่ายขึ้นมีบ้านเรือนประมาณ 1,100 หลังและประชาชนอีกประมาณ 4,000 คน ได้รับคำเตือนให้อพยพ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมไฟป่าได้เพียง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นโดยคำเตือนอพยพ ซึ่งหมายความว่า ประชาชนควรเตรียมพร้อมในการหลบหนีออกจากพื้นที่หากมีคำสั่ง ยังคงมีผลบังคับใช้สำหรับเมืองปาซาเดนา ชานเมืองลอสแอนเจลีส 

ด้านนายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยว่า ถึงวันอังคาร ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 14,500 ตารางกิโลเมตร ประชาชนอย่างน้อย 23,000 คน ที่ถูกอพยพออกจากบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า ยังคงพักอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงของทางการทั่วเขตรัฐ 

เกาะติดข่าวที่นี่