แคนาดา-สหรัฐฯ ปิดพรมแดนสกัดโควิด-19 ต่ออีกเดือน
ออตตาวา, 20 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (19 ต.ค.) แคนาดาประกาศขยายระยะเวลาของข้อตกลงปิดพรมแดนแคนาดา-สหรัฐฯ ออกไปอีก 1 เดือนจนถึงวันที่ 21 พ.ย. นี้
"เราขยายข้อจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นกับสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 21 พ.ย." บิล แบลร์ รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของแคนาดา กล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันจันทร์ (19 ต.ค.)
"การตัดสินใจของเราเป็นไปตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขเพื่อให้ชาวแคนาดาทุกคนปลอดภัย"
ข้อตกลงห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็นดังกล่าวถูกกำหนดใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และได้รับการต่ออายุทุกเดือนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางอื่นๆ เดินทางข้ามพรมแดน ยกเว้นผู้ที่มีจุดประสงค์ด้านการค้าและการพาณิชย์ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่มีเหตุผลจำเป็น จะได้รับอนุญาตให้เข้าแคนาดาได้
ทั้งนี้ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับการเปิดพรมแดนอีกครั้งตลอดระยะเวลากว่า 7 เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ทรัมป์เผยว่าแคนาดาต้องการเปิดพรมแดน
"ดังนั้นเราจะกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งเร็วๆ นี้ เราต้องการฟื้นธุรกิจให้กลับสู่ปกติ"
อย่างไรก็ดี ทรูโดประกาศเมื่อวันพุธ (14 ต.ค.) ว่า แคนาดาวางแผนจะปิดพรมแดนต่อไป เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง โดยเขาเผยว่า "เราต้องการให้ชาวแคนาดาปลอดภัยจากการระบาดใหญ่ เราจึงขยายระยะเวลาการปิดพรมแดนต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ในสหรัฐฯ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจที่จะเปิดพรมแดนอีกครั้ง"