เมื่อป่าไม่ดูดซับคาร์บอน แต่กลับปล่อยคาร์บอนเอง สัญญาณเตือนโลกกำลังอ่อนแอ

ผลการศึกษาล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature ระบุว่า ป่าฝนเขตร้อนในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย กำลังเปลี่ยนสถานะจากแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์กลายเป็นแหล่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แห่งแรกของโลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อราว 25 ปีก่อน แม้ว่ารากในดินจะยังดูดซับคาร์บอนได้ในบางส่วน แต่ลำต้น กิ่งก้าน และใบ คายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่าที่เคยดูดซับได้
โดยปกติแล้วป่าฝนเป็นหนึ่งในแหล่งดูดซับคาร์บอนที่สำคัญที่สุดของโลก แต่ป่าฝนในออสเตรเลียกลับอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าป่าฝนทวีปอื่นซึ่งส่งผลให้สูญเสียสมดุล งานวิจัยนี้ได้ติดตามข้อมูลของพื้นที่ป่า 20 แห่งทั่วรัฐควีนส์แลนด์ตั้งแต่ปี 1971 ครอบคลุมต้นไม้จำนวนกว่า 11,000 ต้น โดยมีการเก็บข้อมูลการเจริญเติบโต และปริมาณคาร์บอนบนผิวดินและในลำต้นของต้นไม้ สถานการณ์ของป่าฝนในออสเตรเลียอาจเป็นตัวอย่างของการล่มสลายของแหล่งดูดซับคาร์บอนของพื้นที่อื่นๆ ในอนาคตเมื่อทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมวิจัย ระบุว่าอาจเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่าป่าฝนทั่วโลกจะเปลี่ยนจากแหล่งดูดซับคาร์บอนแห่งแหล่งปล่อยคาร์บอนเหมือนกับสถานการณ์ของป่าฝนในออสเตรเลีย แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศอย่างหนัก อุณหภูมิโลกที่คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นก็อาจเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
แม้ว่าในอนาคตสมดุลคาร์บอนของป่าอาจเปลี่ยนแปลงไป แต่ป่ายังคงมีบทบาทสำคัญในการช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นกลไกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ชะลอผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนลงได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
