รีเซต

4 หุ้นอสังหา โตสวนโควิด ORI-AP-SC-SIRIแกร่ง

4 หุ้นอสังหา โตสวนโควิด ORI-AP-SC-SIRIแกร่ง
ทันหุ้น
18 พฤศจิกายน 2563 ( 08:00 )
156

ทันหุ้น –สแกน 4 หุ้นอสังหาโตสวนวิกฤติโควิด ORI-AP-SC-SIR ไตรมาส 3/2563 โชว์ฟอร์มเด่นกำไรเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อน ผลจากการโอนโครงการเพิ่มขึ้น ด้าน PSH กางแผนปี 2564 เล็งเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 10-15%


จากการสำรวจผลประกอบการไตรมาส 3/2563 บริษัทอสังหาริมทรัยพ์ 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ พบว่ามี 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SC, บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)หรือ AP และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI มีผลการดำเนินงานเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อน


โดย ORI สามารถทำกำไรสุทธิที่ 717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 687 ล้านบาท และเติบโต 1.4% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท ส่วน SC สามารถทำกำไรสุทธิที่ 683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 440 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 49.8% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท


ขณะที่ AP สามารถทำกำไรสุทธิที่ 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 619 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 19.3% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,215 ล้านบาท และ SIRI สามารถทำกำไรสุทธิที่ 764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 451 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 196.1% จากไตรมราสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 258 ล้านบาท


*โครงการแนวราบยังเติบโตดี


ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ว่า บริษัทต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดโครงการใหม่กันอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านพ้นมาตรการ Lockdown ในไตรมาส 3/2563 โดยส่วนใหญ่ยังคงเน้นเปิดโครงการแนวราบ (เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ เติบโต 119% จากไตรมาสก่อน) สอดคล้องกับโมเมนตัมในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ในขณะที่ยังระมัดระวังในการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ส่งผลให้มูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 9 เดือนปี 2563 ลดลงถึง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อน )


ทั้งนี้ยอดเปิดโครงการแนวราบใหม่ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3/2563 ส่วนใหญ่มาจากโครงการของ AP และ LH ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เน้นทำโครงการคอนโดมิเนียมอย่างเช่น ANAN และ LPN ยังคงไม่เปิดโครงการใหม่เพิ่มในช่วงไตรมาส 3/2563 และเน้นจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต็อกที่ยังค้างอยู่ออกไปก่อน


อย่างไรก็ดีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การเลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยมุ่งไปที่หุ้นที่เน้นโครงการแนวราบระดับกลาง-สูง หรือหุ้นที่มี Backlog โครงการคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับสูง ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ Neutral โดยเลือก AP (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท) LH (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท) และ SPALI (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 19.60 บาท) เป็นหุ้นเด่น


*PSH ปีหน้าเปิด 35 โครงการ


นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท พฤกษา โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าปี 2564 รายได้เติบโตราว 10-15% จากปีนี้ที่ประมาณการไว้ราว 3.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 2.56 หมื่นล้านบาท คาดจะรับรู้ในปีนี้ราว 7 พันล้านบาท และปีหน้ารับรู้อยู่ที่ 9 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 ตลอดจนมีโรงพยาบาลวิมุตเข้าเสริม ซึ่งคาดปีหน้าได้จากโรงพยาบาลจะอยู่ที่ราว 1%ของสัดส่วนรายได้รวม


โดยในปี 2564 บริษัทมีแผนโครงการใหม่ 30-35 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น คอนโด 5-7 โครงการ มูลค่า 7-8พันล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการแนวราบ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์เนอร์ญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก 1 โครงการ (รวมในแผนเปิดโครงการปี 2564 แล้ว) คาดชัดเจนภายในปีนี้


ด้านความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุตยังเป็นไปตามแผนงาน คาดจะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2564 โดยในช่วงแรกจะเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) เต็มรูปแบบ และให้บริการผู้ป่วยใน (IPD) ราว 100 เตียง รวมทั้งคาดเปิดให้บริการเตียงผู้ป่วยในเต็มรูปแบบภายใน 3 ปี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม