เซ็นทรัลพัฒนา ไตรมาสแรกโกยรายได้ 8พันล้าน ประกาศขยายลงทุนเกิน 30 สาขาใน5ปี
น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาสท 1/2565 สถานการณ์ต่างๆ เริ่มปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งสอดคล้องกับรายได้และกำไรจากการดำเนินธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยบริษัทยังคงสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ให้อยู่ในระดับสูงได้เฉลี่ย 91% ประกอบกับภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 และมีโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกันครั้งที่ 4 และโครงการเทสต์แอนด์โก ที่ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจในอนาคตคงมีความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอลง ภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ดังนั้นบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนแผนให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ บริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่าย และโครงสร้างเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด
น.ส.นภารัตน์ กล่าวต่อว่า ไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 8,072 ล้านบาท ลดลง 15% และกำไรสุทธิ 2,328 ล้านบาท ลดลง 39% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานหลักที่ไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงิน บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 23% และกำไร เติบโต 72% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น สำหรับเหตุการณ์สำคัญในไตรมาส 1 ปี 2565 เซ็นทรัลพัฒนาได้ประกาศเดินหน้าวิสัยทัศน์ Imagining better futures for all สร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งภายใต้การนำของนางวัลยา จิราธิวัฒน์ CEO หญิงคนแรกของบริษัท ชูกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน ทั้งการ Synergy ผนึกกำลังทุกฝ่ายทั้ง คู่ค้า ชุมชน และธุรกิจมิกซ์ยูสภายใต้การบริหารของบริษัทฯ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตและธุรกิจอย่างครบวงจร โดยมีศูนย์การค้าเป็นแกนหลัก พร้อมลงทุน 450 ล้านบาทในปีนี้ ตั้งทีม Business & Digital Transformation เพื่อทรานฟอร์มธุรกิจสู่การเป็น Omnichannel Platform เชื่อมโยงทุกธุรกิจใน ecosystem เข้าด้วยกัน แบบ B2B2C สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าในอนาคต นอกจากนี้ ยังสร้างมาตรฐานใหม่ของพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่ดีในอนาคต โดยในทุกโครงการใหม่ของเซ็นทรัลพัฒนาจะต้องใส่ใจหัวใจสำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ Green & Energy และ Health & Wellness เพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนของทุกคน รวมทั้งมุ่งสู่องค์กรแห่งการสร้างโอกาส พัฒนาคน พัฒนาเมืองและประเทศ และยกระดับวงการอสังหา และรีเทลไทยเทียบเท่าระดับโลก
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาได้แก่ เซ็นทรัล จันทบุรี กำหนดเปิดให้บริการ 26 พฤษภาคมนี้ และโครงการใหม่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ เชื่อมตรงสู่ Bangkok CBD กำหนดเปิด ไตรมาส4 ปี 2566 นอกจากนี้ ยังมีโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จะทยอยเปิดให้บริการปี 2566-67 สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (2565-2569) บริษัทจะปรับแผนการลงทุน และแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุน รวมทั้งคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคต