รีเซต

DEMCOเล็งแตกไลน์ธุรกิจ ขยายฐานเจาะเมกะเทรนด์

DEMCOเล็งแตกไลน์ธุรกิจ ขยายฐานเจาะเมกะเทรนด์
ทันหุ้น
27 มิถุนายน 2565 ( 09:26 )
127

#DEMCO #ทันหุ้น - DEMCO มองธุรกิจครึ่งหลังปี 2565 ฟื้นตัวดีขึ้น หลังโควิด-19คลายตัว ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิต-กิจกรรมการค้าได้มากขึ้น คาดงานทั้งภาครัฐและเอกชนเริ่มทยอยออกประมูล อวดแบ็กล็อกหนา 4,052 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ช่วงที่เหลือปี 2565นี้ไม่น้อยกว่า 40% มั่นใจรายได้เติบโต 10% เข้าเป้า พร้อมเดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจ ขยายลงทุนรองรับเมกะเทรนด์

 

นายพงษ์ศักดิ์  ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2565เชื่อว่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความรุนแรงของโรคลดลง ส่งผลให้ในปัจจุบันประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตและดำเนินกิจกรรมการค้าได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติแล้ว

 

*แบ็กล็อกหนา

 

ทั้งนี้บริษัทยังคงมีความสนใจและอยู่ระหว่างยื่นเสนอราคางานทั้งส่วนของภาครัฐและเอกชนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐ ทั้งในส่วนโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานในส่วนงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เฉลี่ย 10,000 ล้านบาทต่อปี และโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่คาดจะประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและสายส่ง มูลค่าเฉลี่ยต่อปีที่ราว 7,000 ล้านบาทต่อปี

 

โดยปัจจุบันบริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลอีก มูลค่ารวมเกือบ 700 ล้านบาท ประกอบด้วยงานสายส่งของ EGAT มูลค่า 500 ล้านบาท, งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้า (Substation) ของภาคเอกชน มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท รวมถึงงานโครงการขนาดเล็ก อีก 2 โครงการ มูลค่าเฉลี่ยราว 20-30 ล้านบาทต่อโครงการ ที่คาดว่าจะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

ขณะที่งานในมือรอการทยอยส่งมอบ (Backlog) ของบริษัท ณ วันที่ 8พฤษภาคม 2565 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4,052ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยส่งมอบงานให้กับลูกค้าได้ภายในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ ไม่น้อยกว่า 40% ของมูลค่างานทั้งหมดที่มี ส่งผลให้บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้รวมปี 2565 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% จากปีก่อนที่ 2,731.37 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 386.08 ล้านบาท

 

**แตกไลน์ธุรกิจ

 

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าแผนขยายการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสอดรับ Mega Trends หลังเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง เช่น Computerized Base, Smart Grid, Micro Grid และ Energy Storage รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เพื่อต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ เบื้องต้นคาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะได้เห็นความชัดเจนในการลงทุนในด้าน Smart Energy และระบบที่จอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking System)

 

ส่วนงบลงทุนในปี 2565 บริษัทวางไว้ที่ประมาณ 50 ล้านบาท หลักๆ เพื่อรองรับส่วนของการขยายการลงทุนโครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) ที่บริษัทวางเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตรวมที่ไม่น้อยกว่า 20 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 2566

 

"ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 นี้เชื่อว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้งานใหม่ๆ เริ่มทยอยออกมาได้มากขึ้น ซึ่งเรามีความพร้อมที่จะเสนอราคางานใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรด้วย และด้วยปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้การส่งมอบพื้นที่ในการเข้าไปปฏิบัติงานก็จะทำได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย จากในช่วงไตรมาส 1/2565 ที่ยังคงชะลอตัว" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง