จีนพบหลักฐาน 'ลมกัดเซาะ' บน 'ดาวอังคาร'
ปักกิ่ง, 11 มี.ค. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาใหม่ชิ้นหนึ่งเปิดเผยว่า จุดที่ยานจู้หรง หรือยานสำรวจพื้นผิวดาวอังคารของจีนลงจอดนั้น เคยเผชิญกับการกัดเซาะจากลมและอาจรวมถึงการกัดเซาะจากน้ำ ซึ่งช่วยให้มีหลักฐานมากขึ้นเกี่ยวกับลักษณะพื้นผิวของดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้
ผลการศึกษาข้างต้น ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ จีโอไซแอนซ์ (Nature Geoscience) ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ยานจู้หรงรวบรวมได้ตลอด 60 วันแรกบนดาวอังคาร ซึ่งในช่วงเวลานี้ยานจู้หรงเดินทางเป็นระยะทางราว 450 เมตร
หลังมีการศึกษาหินหลายก้อนบริเวณพื้นผิวผ่านภาพที่ถ่ายโดยกล้องของยาน คณะนักวิจัยซึ่งนำโดยติงเลี้ยง จากสถาบันเทคโนโลยีฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน พบว่าดินของดาวอังคารมีกําลังรับแรงแบกทานสูง และมีหลักฐานที่ชี้ถึงการถูกกัดเซาะโดยลม โดยคณะนักวิจัยยังได้ระบุลักษณะของภูมิประเทศหลายๆ แบบ เช่น สันเขา รอยริ้วคลื่น และปล่องภูเขาไฟที่สึกกร่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกลมพัดผ่านมายาวนาน
นอกจากการกัดเซาะจากลมแล้ว นักวิจัยยังสังเกตเห็นว่าเนื้อหินบางก้อนมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามันเคยมีปฏิสัมพันธ์กับน้ำเค็มมาก่อน
อนึ่ง ยานจู้หรงลงจอดบนที่ราบขนาดมหึมาที่เรียกว่ายูโทเปีย พลานิเทีย (Utopia Planitia) ทางซีกเหนือของดาวอังคารเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2021 และได้รวบรวมตัวอย่างและถ่ายภาพขณะสำรวจดาวอังคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่ายูโทเปีย พลานิเทียเป็นพื้นที่ภูเขาไฟที่มีอายุพื้นผิวคาดการณ์มากกว่า 3 พันล้านปี และในอดีตอาจเคยมีน้ำที่มีสถานะเป็นของเหลวหรือน้ำแข็งปริมาณมาก
นักวิจัยกล่าว่าการค้นพบครั้งนี้ช่วยเพิ่มพูนความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพื้นผิวดาวอังคารและวิวัฒนาการของที่ราบทางตอนเหนือของดาว