รีเซต

ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ! คลังเตือนรีบดำเนินการภายใน 1 พฤษภาคม 2566

ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ! คลังเตือนรีบดำเนินการภายใน 1 พฤษภาคม 2566
TNN ช่อง16
28 เมษายน 2566 ( 19:12 )
193

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าข้อมูลจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ณ วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,261,446 ราย ผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติที่ประสงค์จะอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ขอให้รีบดำเนินการยื่นขออุทธรณ์ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์จะขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ 


ช่องทางขออุทธรณ์ สามารถดำเนินการได้ผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้


1. ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https: //welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ

2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติซึ่งผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์


ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติได้ทำการยื่นขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ไปติดต่อเพื่อขอตรวจสอบและ/หรือขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566


สำหรับความคืบหน้าในการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) โดยข้อมูลณ วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น.มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 13,308,808 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 91.17 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด) สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนสำเร็จระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 26 เมษายน 2566 จำนวน 721,208 รายจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไปและจะได้รับสิทธิย้อนหลังของเดือนเมษายน 2566 (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)


ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 


ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตน สามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด จึงขอให้ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนรีบดำเนินการยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จเพื่อให้สามารถใช้สิทธิสวัสดิการตามโครงการฯ ทั้งนี้ รายละเอียดช่วงเวลาการยืนยันตัวตนและวันที่เริ่มใช้สิทธิตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ปรากฏตามตาราง


การยืนยันตัวตนผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จเนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่านในกรณีนี้ ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหากตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้งนอกจากนี้ การยืนยันตัวตนไม่สำเร็จอาจเกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน ซึ่งผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่านขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยฯ เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยฯ ต่อไป


สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการฯ ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 (ผู้มีสิทธิฯ) ณ วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 3,943.26 ล้านบาทจากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 12.16 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าฯ จำนวน 3,632.95 ล้านบาท วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 252.33 ล้านบาท และวงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 57.98 ล้านบาท ตามลำดับ

 


ช่องทาง ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน 


ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https: //welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน


กรณีมอบอำนาจ (ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาอุทธรณ์ได้เอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้เอกสารดังนี้)


-บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

-หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไวต์โครงการฯ) คลิกที่นี่

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

-สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)


**ช่องทางดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจ**


-หนังสือมอบอำนาจสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้สูงอายุที่ ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง คลิกที่นี่

-หนังสือมอบอำนาจสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้สูงอายุที่ ไม่สามารถเดินทางมาตรวจสอบสิทธิ และ อุทธรณ์สิทธิได้ด้วยตนเอง คลิกที่นี่  

 



ช่องทางการลงทะเบียน และช่วงเวลาการรับสิทธิค่าน้ำ-ค่าไฟ


- การไฟฟ้านครหลวง https://meagate1.mea.or.th/welfareregis 
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค https://welfareregis.pea.co.th
- กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ https://walfareregis.sea.co.th
- การประปานครหลวง https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet
-การประปาส่วนภูมิภาค https://register.pwa.co.th/welfare-register.html 





 




ภาพจาก AFP/บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ









ข่าวที่เกี่ยวข้อง