"CPALL-NIA-มช." รวมพลัง ผลักดันไทยสู่ "ชาตินวัตกรรม" เดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมสู่สากล

นางสาวมาลี อุทัยกิตติศัพท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กล่าวบนเวที "Tech Partnership : Alliances for Action" ในหัวข้อ “Thailand Innovation Partnership” ภายในงาน "CP Innovation Exposition & Symposium 2025" มหกรรมนวัตกรรมบัวบาน และการประชุมวิชาการเครือเจริญโภคภัณฑ์ 2025 ภายใต้แนวคิด “Innovate the Future For a Better Tomorrow” ขับเคลื่อนความสำเร็จด้วยนวัตกรรมสู่อนาคตยั่งยืน ด้วยความร่วมมือจาก 11 องค์กร ผ่านโครงการ "Thailand Synergy" เพื่อ SME ไทย ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้าง SME ไทยให้เติบโตด้วยนวัตกรรมอย่างก้าวกระโดด ซึ่งไม่ใช่เพียงการวิจัย และเทคโนโลยี แต่ยังต้องมีการพัฒนาธุรกิจ และแหล่งเงินทุน รวมถึงตลาด

จากความร่วมมือดังกล่าวกลุ่ม CP เองยังทำหน้าที่ในการให้ความรู้ และสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ SME สามารถส่งสินค้านวัตกรรมออกสู่ตลาดได้อย่างแข็งแรง และยั่งยืน ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการสร้างประโยช์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทั้งการเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร ซึ่งเป็นการช่วยพัฒนา SME ด้วยนวัตกรรม และผลักดันงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ สามารส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของไทย และแน่นอนคือการมีสินค้านวัตกรรมที่แตกต่าง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

รวมถึงสิ่งสำคัญที่จะทำให้ SME สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าสามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้า และสามารถที่จะปรับตัว รวมถึงใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาธุรกิจ ให้สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

ด้านดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ภาครัฐฯต้องให้ความสำคัญในการร่วมมือกับเอกชน เพื่อเป็น Partnership ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศไทย เพื่อให้สามารถสร้าง Ecosystem ที่มีความเข้มแข็งได้ โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติก็พร้อมสนับสนุนการเสริมสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ National Innovation System

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญคือการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการใช้ประโยชน์จากอุทยานวิทยาศาสตร์ ในการสร้างสรรค์ผู้ประกอบการนวัตกรรม รวมถึงการส่งเสริม Start up และผู้ประกอบการ ด้วยความร่วมมือกับ CPALL ในการส่งเสริมสินค้านวัตกรรมออกสู่ตลาด เพื่อสร้างห่วงโซ่ที่เข้มแข็งทำให้ระบบนิเวศของนวัตกรรมในประเทศไทยเข้มแข็งไปด้วย และที่สำคัญคือการยกระดับผู้ประกอบการในประเทศไทยมีจุดยืนในต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการ "Leading Thailand To Innovation Nation" ไปพร้อมกัน

ในขณะที่ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเพิ่มเติมว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สามารถให้การสนับสนุนผู้ประกอบการทั่วประเทศกว่า 12,000 ราย สร้างผู้ประกอบการใหม่ 957 บริษัท ที่เป็นทั้ง Start Up และ High Growth SME ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ด้วยฐานข้อมูลด้านโครงสร้างพื้นฐาน และงานวิจัยมากกว่า 80,000 ผลงาน เกิดการจ้างงานในภูมิภาค 27,000 อัตรา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 50,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ประเด็นที่สำคัญในการสร้างผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม คือความเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ สินค้าไทยมีศักยภาพสูงสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ รวมถึง Ecosystem ในประเทศไทยก็มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการร่วมมือกับ Partner หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นเอกชนกับเอกชนเท่านั้น ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่พร้อมสนับสนุน ให้ SME ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน