รีเซต

บีเอ็มฯ‘X5 xDrive45e M Sport’ ลุยทุกเส้นทางทั้ง‘สนามแข่ง-ถนน’

บีเอ็มฯ‘X5 xDrive45e M Sport’ ลุยทุกเส้นทางทั้ง‘สนามแข่ง-ถนน’
ข่าวสด
29 กรกฎาคม 2563 ( 00:19 )
168

 

บีเอ็มฯ‘X5 xDrive45e M Sport’
ลุยทุกเส้นทางทั้ง‘สนามแข่ง-ถนน’

คอลัมน์ หลากหลาย
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
ในสถานการณ์ ‘นิว นอร์มัล’ ต้องเว้นระยะห่างกันพอสมควร ทำให้การจัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ ต่างต้องอยู่บนมาตรฐานใหม่ ค่ายใบพัดสีฟ้าที่จัดกิจกรรมทดสอบ บีเอ็มดับเบิลยู ‘X5 xDrive45e M Sport’ รถสไตล์ SUV ที่ค่ายนี้เขาเรียกว่าเป็นรถแบบ SAV (Sports Activity Vehicle) เหมาะกับการขับขี่ไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ประมาณนั้น


รุ่นล่าสุดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ในรูปแบบรถยนต์ ‘ปลั๊ก-อิน ไฮบริด’ ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร TwinPower Turbo และเทคโนโลยี BMW Efficient Dynamics ที่ให้ทั้งพละกำลังมหาศาล ความประหยัด


โดยให้ทดสอบกันคันละ 1 คน รถแต่ละคัผ่านการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และมีอุปกรณ์ปกปิดจุดสัมผัส เช่น พวงมาลัย หัวเกียร์ มาเป็นอย่างดี แบ่งการทดสอบออกเป็น 2 รูปแบบ คือในสนาม ‘เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์’ ขับผ่านอุปสรรคต่างๆ เช่น ทางกรวด ขึ้นเนิน ทางลาดเอียง เป็นต้น
พร้อมทั้งพาลุยเข้าไปในเส้นทางของชาวไร่มันสำปะหลัง แถวศรีราชา ซึ่งบอกเลยว่าไม่ธรรมดา บางช่วงบางตอน ราวกับตะลุยเข้าไปในป่าดงพงไพรกันเลยทีเดียว
วอร์มอัพเบาะๆ กับสถานีทดสอบการเบรก บนถนนที่มีกรวดลอยอยู่เทคนิคแตกต่างจากการเบรกทั่วไปเล็กน้อย
คือต้องเหยียบเบาๆ 2 ครั้ง ให้ระบบได้รับรู้ ช่วยให้ตัวรถเบรกได้กระชับยิ่งขึ้น
หากเบรกแบบหนักเพื่อให้เอบีเอสทำงาน โมเมนตัมจะทำให้ตัวรถไถลไปข้างหน้าระยะพอสมควร
มาถึงเนินชัน บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport นอกจากมีทัศนวิสัยที่ดี มองเห็นด้านหน้าไปยาวไกลแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีก หากมองไม่เห็นทางด้านหน้าจริงด้วยกล้องที่ติด อยู่รอบคัน ช่วยให้ขับผ่านหลบหลีกอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ลงทางชันมาเจอกับทางลาดเอียง แน่นอนว่ารถสไตล์ขาลุย เส้นทางแค่นี้ถือว่าธรรมดามาก ความชันอยู่ที่ประมาณ 20 องศา ตัวรถเอียงอยู่พอสมควร ทำให้เกิดอาการลื่นดิ้นให้ได้รู้สึกบ้างเล็กๆ แต่ระบบขับเคลื่อน สี่ล้อ xDrive เข้ามาจับไว้ได้ทัน ประคองรถไปได้จนสุดเส้นทางได้ไม่ยาก


จบการทดสอบในสนาม ทีมงานขับนำไปยังเส้นทางไร่มันสำปะหลัง ก่อนถึงเป็นถนนคอนกรีตเรียบ และยาว พอได้กดแป้นคันเร่งยาวๆ กำลังของเครื่องยนต์ 286 แรงม้า บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 113 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic เรียกมาใช้งานได้ในทันทีที่กด คันเร่ง


หันหัวเข้าไร่นอกจากความขรุขระแล้ว ยังมีหลุมบ่อดักหน้าดักหลังอยู่แทบจะตลอดเส้นทาง ช่วงล่างที่เปลี่ยนมาเป็นระบบถุงลม ให้ความนุ่มนวลไม่ต่างจากซีดานชั้นดี
บางช่วงเจอเนินดินนูนขึ้นอยู่กลางเส้นทาง ปรับตัวรถให้สูงขึ้นเสียเลยง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัสเบาๆ ผ่านอุปสรรคสบายมือ
หากลืมปรับความสูงลงมา เมื่อรถทำความเร็วระดับหนึ่ง ระบบจะปรับช่วงล่างลงมาให้เองอัตโนมัติ


หลายคนอาจจะมีคำถามว่าช่วงล่างเป็นระบบถุงลม จะลดทอนการยึดเกาะถนนไปหรือไม่ ตรงนี้มีคำตอบกับการทดสอบสถานีสุดท้าย แบบ ‘จิมคาน่า’
ขับสลับไปมาแบบสลาลม เข้าวงเวียนเป็นวงกลม การเปลี่ยนเลนกะทันหันแบบไม่ แตะเบรก ซึ่งทุกสถานการณ์อยู่บนความเร็วสูงกว่าปกติ แต่ไม่ได้ทำให้ตัวรถเสียอาการ
กระจังหน้าขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟหน้าที่ดุดัน และช่องดักลมที่กว้างกว่าเคย เส้นสายด้านข้างดูบึกบึน
หลังคากระจกแบบ Panorama และฝาท้ายแบบแบ่งเป็นส่วนบนและล่าง เปิดปิดระบบไฟฟ้า
ชุดตกแต่งรอบคันดีไซน์ M พร้อมกันชนหน้า สเกิร์ตข้าง และแผงปิดซุ้มล้อสีเดียวกับ ตัวรถ ขอบหน้าต่างสีดำเงา หรือขอบอะลูมิเนียมแบบด้านรอบหน้าต่าง
สัญลักษณ์ M ที่ด้านข้างตัวรถ คาลิปเปอร์เบรกแบบ M Sport สีน้ำเงินดีไซน์ M
กันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ ท่อไอเสียแบบ M Sport ราวหลังคาสีดำ เงา Welcome Light Carpet
ภายในนอกจากเทคโนโลยีอันทันสมัย ต่างๆ แล้ว ยังตกแต่งด้วยชุดแต่ง M SPORT กราบบันได ไฟส่องสว่าง ที่พักวางเท้าด้าน คนขับ แป้นเบรก และคันเร่งเอกลักษณ์เฉพาะ เบาะนั่งแบบสปอร์ตสำหรับคนขับและ ผู้โดยสารด้านหน้า หุ้มด้วยหนัง Vernasca สีดำ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแบบ M Sport
เพดานหลังคาภายในสี Anthracite ตกแต่งด้วยไม้ลาย ‘Fineline Stripe’ สีน้ำตาลเงา
แผงหน้าปัดดีไซน์ M ในโหมด SPORT และ SPORT+ กุญแจรถพร้อมสัญลักษณ์ M พรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ M
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ตั้งราคาไว้ที่ 4,999,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง