รีเซต

ทำความรู้จัก K-Visa จีนดึงหัวกะทิต่างชาติ ในวันที่สหรัฐฯ ปิดประตู

ทำความรู้จัก K-Visa จีนดึงหัวกะทิต่างชาติ ในวันที่สหรัฐฯ ปิดประตู
TNN ช่อง16
4 ตุลาคม 2568 ( 11:59 )
7

จีนออกวีซ่าใหม่ หวังดึงดูดแรงงานต่างชาติ เข้ามาพัฒนาประเทศ 


แต่วีซ่านี้ แอบคล้ายวีซ่า H-1B ของสหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศขึ้นธรรมเนียมเป็น 3  ล้านบาท เสมือนเป็นการบอกว่า ในวันที่สหรัฐฯ ปิดลับคนเก่งจากต่างแดน จีนขอเป็นคนเปิดประตูต้อนรับพวกเขาเอง


จีนออก K-Visa หวังดึงหัวกะทิต่างชาติทั่วโลก


วีซ่านี้ มีชื่อเรียกว่า “K-Visa” จริง ๆ แล้ว มันรัฐบาลจีนอนุมัติตั้งแต่เดือนสิงหาคม และมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม แต่เพิ่งมาเป็นข่าวทั่วประเทศ หลังสื่ออินเดียรายงานข่าวเกี่ยวกับวีซ่านี้ และขนานนามว่าเป็นวีซ่า “H-1B สัญชาติจีน” ดึงดูดความสนใจแก่ชาวอินเดียเป็นอย่างมาก 


ที่คนอินเดียสนใจ เพราะพวกเขาถือครองวีซ่า H-1B ของสหรัฐฯ มากกว่า 70% แต่วีซ่า H-1B กลับถูกขึ้นค่าทำเนียมเป็น 3 ล้านบาทต่อคน ซึ่งบริษัทอเมริกันจำนวนไม่น้อย ไม่พร้อมแบกรับค่าใช้จ่ายขนาดนี้ กลายเป็นกำแพงสกัดกั้นแรงงานหัวกะทิ ไม่ให้เข้ามาทำงานในประเทศ


สำหรับวีซ่า H-1B  เป็นวีซ่าสำหรับแรงงานทักษะสูง หรือแรงงานที่มีฝีมือในสาขาวิชาชีพเฉพาะทาง และเป็นวีซ่าที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ดึงดูดชาวต่างชาติทักษะสูง เข้ามาทำงานในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี


K-Visa คืออะไร ?


สำหรับ K-Visa ของจีน รัฐบาลจีน เผยว่า วีซ่าประเภทนี้ จะใช้ได้กับบุคคลที่เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรม STEM ได้แก่ วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ เป็นวีซ่าสำหรับการแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา, วัฒนธรรม, วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงการเป็นผู้ประกอบการและกิจกรรมทางธุรกิจ


สื่อรัฐบาลจีน รายงานว่า ผู้สมัคร K-Visa จะต้องเป็นบุคคลที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือ สูงกว่าจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในจีน หรือต่างประเทศ ในสายงาน STEM หรือจะเป็นผู้สอน หรือ นักวิจัยในสถาบันเหล่านั้น ก็ขอยื่นได้เช่นกัน 


นอกจากนี้ แรงงานต่างชาติไม่จำเป็นต้องมีนายจ้าง หรือบริษัทจีน เป็นคนออกจดหมายรับรอง การขอวีซ่า และมีความยืดหยุ่นกว่าวีซ่าปกติ เช่น เข้าออกได้หลายครั้ง, อายุวีซ่านานกว่า อยู่จีนได้ยาวนานขึ้น 


อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านอายุ หรือมหาวิทยาลัยใดบ้างที่มีคุณสมบัติตามโครงการนี้ รวมถึงยังถูกตั้งคำถามว่า วีซ่านี้ เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในจีน หรือเพียงแค่ช่วยให้เข้าประเทศได้สะดวกขึ้นเท่านั้น 

ชาวจีนไม่พอใจรัฐดึงต่างชาติเข้าประเทศ หวั่นโดนแย่งงาน


K-Visa ดูเหมือนจะสร้างความสนใจให้แรงงานต่างชาติ หัวกะทิทั่วโลก แต่ประชาชนจีนส่วนใหญ่ กับไม่พอใจนโยบายนี้อย่างแรง เพราะมองว่า จะเพิ่มการแข่งขันในตลาดแรงงานให้สูงขึ้นอีก ท่ามกลางคนจีนที่ว่างงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ 


วีซ่านี้ ถูกวิจารณ์มากบนโลกโซเชียล ชี้ว่า จีนมีบัณฑิตที่จบปริญญาตรี โท เอก มากพอแล้ว มีบุคลากรเหลือเฟือมากมายในประเทศ แต่รัฐบาลกลับคิดจะดึงชาวต่างชาติเข้ามาทำงานอีก 

บางคน แสดงความเห็น ทำนองว่า ชาวต่างชาติจะอาศัยอยู่จีนได้หรือไม่ เพราะพวกเขาต้องเผชิญกับกำแพงทางภาษา และระบบการเมืองที่ถูกรัฐบาลควบคุมอย่างเข้มงวด 


การแสดงความไม่พอใจ แพร่กระจายหนักบนโซเชียลมีเดียจีน บางความเห็นแสดงถึงความเกลียดชังชาวต่างชาติ หรือ เหยียดเชื้อชาติอีกด้วย ส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่ชาวอินเดีย จนท้ายสุด สื่อรัฐบาลจีนอย่าง Global Times ต้องออกมารายงานว่า การที่จีนออกวีซ่าดังกล่าว เป็นการแสดงให้โลกเห็นว่า จีนเปิดกว้าง และมีความมั่นใจมากขึ้นในโลกยุคใหม่ 


สายงาน STEM ยังคงเป็นสายงานที่ให้เงินเดือนสูงสุดในจีน และยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เว็บไซต์ Secondtalent เฉลี่ยเงินเดือนสายงานนี้สำหรับชาวต่างชาติ เริ่มต้นตั้งแต่ 30,000 ไปจนถึงมากกว่า 100,000 หยวนต่อเดือน ซึ่งอยู่กับประสบการณ์ทำงาน และเมืองที่ทำงานของแรงงานแต่ละคนด้วย 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 


https://www.bbc.com/news/articles/cvg4eeerzrwo

https://www.secondtalent.com/developer-rate-card/china/

https://www.tnnthailand.com/wealth/investment/212882/

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง