พปชร.ไม่เลื่อนประชุมใหญ่ 18เม.ย. ไร้คิวปรับเลขาฯพรรค "อนุชา" กักตัว ไม่เข้าร่วม

เมื่อวันที่ 13 เมษายน กรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อทุกแวดวง รวมทั้งแวดวงการเมืองทำให้หลายพรรคการเมืองต้องเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีออกไป ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่พรรคการเมืองหลายพรรค ทำหนังสื่อถึง กกต.เพื่อขอเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ต้องประชุมภายในเดือนเมษายนนี้ โดยมีพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เนื่องจากสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดอย่างหนัก ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐจะมีการจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 18 เมษายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันว่าจะมีการจัดประชุมในวันดังกล่าว โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 250 คน ภายใต้กระแสข่าวจะมีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า หากหัวหน้ายืนยันว่ามีการจัดประชุม ก็ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนตนคงไม่ได้ไปร่วมประชุมเนื่องจากอยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน ซึ่งได้เริ่มกักตัวในวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า วาระการประชุมจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า การประชุมใหญ่ดังกล่าวเป็นวาระการรับรองงบดุลประจำปีงบประมาณ 2563 เรื่องอื่นไม่เกี่ยว เพราะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมยังทำหน้าที่เท่าจำนวนที่มีอยู่

• จับตาศึกชิงเลขาฯพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่พรรค พปชร. คาดว่าจะมีการพิจารณาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) แทนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกในคดีการชุมนุม กปปส. จนทำให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นอกจากนั้น ต้องจับตาอาจมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงบุคคลในบางตำแหน่ง เช่น เลขาธิการพรรคของนายอนุชา ที่มีกระแสข่าวกลุ่ม 4ช. นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้เปลี่ยนเลขาฯ จากนายอนุชา เป็น ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่กลุ่ม 4ว. นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุชา และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สนับสนุนให้นายอนุชาอยู่ในตำแหน่งต่อไป

• ชัยธวัชเชื่อรบ.อยู่ไม่ครบเทอม

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ที่มีมวลชนนัดออกมาเคลื่อนไหว ว่า หลายปัญหารุมเร้ารัฐบาลจนเหมือนใกล้จะแตก ความไม่พอใจของประชาชนพุ่งสูงโดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 มีคนของรัฐบาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ เรื่องโควิดจะชี้ขาดรัฐบาลหากบริหารจัดการไม่ได้ แต่เราต้องให้โอกาสรัฐบาลทำงาน เเม้เราเห็นแน่ๆ ว่าการบริหารจัดการวัคซีนนั้นบกพร่อง พรรคเตือนเรื่องนี้มาตลอด แต่ก็ต้องช่วยกันสนับสนุนผลักดันรัฐบาลให้จัดการได้ดีกว่านี้ เพราะปัญหานี้จะไปผสมกับปัญหาอื่นเดิมๆ ก่อนการระบาดระลอกใหม่ บวกกับความไม่พอใจทางการเมือง คือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“เมื่อหลายอย่างรุมเร้าอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลที่เร็วขึ้นได้ แต่คิดว่าบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้เราอาจจะเริ่มเห็น การเว้นระยะห่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกฯ กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เช่น เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเห็นชัดท่าทีพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา เริ่มเว้นระยะห่างออกจากท่าทีของ พปชร. เพราะรู้ดีว่าถึงจุดหนึ่งคงไม่สามารถแบกเอา พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นภาระพรรคของตน จนกระทบความนิยมทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนตัวคิดว่าทั้งหมดทั้งมวล ผมคิดว่ารัฐบาลไม่น่าจะอยู่ครบเทอม แต่แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายตัวเองอาจยังเข้าใจไปเองว่ายังประคับประคอง และมีอำนาจค้ำบัลลังก์ตนเองไปจนครบวาระได้ และยังอยากจะอยู่ต่ออีกวาระหนึ่ง โดยคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรกับตนเองได้ จนบางครั้งเผลออะไรที่ลุแก่อำนาจ ก็เป็นอันตราย” นายชัยธวัช กล่าว