ผู้เชี่ยวชาญชี้ 'ออสเตรเลีย' กำลังเผชิญโควิด-19 ระลอก 'ติดเชื้อซ้ำ'
แคนเบอร์รา, 9 พ.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (9 พ.ค.) เอเดรียน เอสเตอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากมหาวิทยาลัยเซาธ์ออสเตรเลียของออสเตรเลีย ประกาศเตือนถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ติดเชื้อซ้ำทั่วประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาว
เอสเตอร์แมนระบุว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อซ้ำกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากการลดลงของภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจากการระบาดสูงสุดของของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนในออสเตรเลีย ระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคมที่ผ่านมา พร้อมชี้ว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญจำเป็นต้องพึ่งพาข้อมูลจากต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นในออสเตรเลียไม่มีระบบติดตามอัตราการติดเชื้อซ้ำ
เอสเตอร์แมนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ แคนเบอร์รา ไทม์ส (The Canberra Times) ว่าผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าออสเตรเลียกำลังเผชิญกับการติดเชื้อซ้ำ แต่ก็ไม่มีเหตุผลชี้ว่าเราจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อซ้ำจำนวนมากเช่นกัน
หนังสือพิมพ์ฯ ระบุว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยหลายสายพันธุ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อก่อนหน้านี้ได้ และชาวออสเตรเลียกำลังติดโรคโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่สองเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ อัตราการติดเชื้อโรคโควิด-19 ของออสเตรเลีย อยู่ในระดับคงที่ที่ราว 40,000 รายต่อวัน นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน โดยจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76 ราย เมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ค.)
อย่างไรก็ดี เอสเตอร์แมนกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่คาดการณ์ไว้ช่วงฤดูหนาว จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบโรงพยาบาลเหมือนการระบาดระลอกก่อนหน้า ขณะที่รัฐบาลกลาง รัฐบาลรัฐ และรัฐบาลระดับภูมิภาค ได้เรียกร้องให้ชาวออสเตรเลียทุกคนเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการซ้ำเติมภาระแก่ระบบสุขภาพของประเทศ