EICชี้ส่งออกพ.ค.พุ่งแรงดันทั้งปีนี้ติดลบลดลง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ  ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC  ปรับประมาณการส่งออกไทยทั้งปี 2568 ขึ้นเป็นติดลบน้อยลงที่ร้อยละ 0.1  จากติดลบร้อยละ 0.4 ในการประมาณการครั้งก่อน  เนื่องจากมูลค่าส่งออกสินค้าไทยเดือน พ.ค. 2568 ขยายตัวแรงเกิดคาดที่ร้อยละ 18.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน (YOY)  และมีมูลค่าอยู่ที่ 31,044.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ภาพรวมมูลค่าส่งออกไทยช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 14.9 

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาสาเหตุการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวดี SCB EIC ระบุว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นจากปัจจัยชั่วคราวทั้ง การเร่งส่งออกสินค้าที่ยังไม่โดนภาษี  การส่งออกทองคำไปอินเดีย  ฐานต่ำในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567  ซึ่งมีความเสี่ยงที่ปัจจัยเหล่านี้จะทยอยหมดไปในช่วงที่เหลือของปี

SCB EIC มองว่าผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศจะรุนแรงและชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป หลังจากที่หลายประเทศได้เร่งผลิตและส่งออกก่อนได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 

ทั้งนี้ SCB EIC มองว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าอาจยืดเยื้อไม่เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา ผนวกกับกระบวนการทางกฎหมายภายในของสหรัฐฯ ต่อประเด็นอำนาจของประธานาธิบดีในการใช้นโยบายภาษีนำเข้า จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้ายังอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

SCB EIC มองว่าในช่วงที่เหลือของปีการส่งออกไทยเผชิญความเสี่ยงด้านลบเพิ่มเติมจากปัจจัย จากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยอาจมีแนวโน้มใช้  Specific Tariff เพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสินค้าส่งออกของไทยส่วนมากมีแนวโน้มได้รับผลกระทบ 

นอกจากนี้ความขัดแย้งอิสราเอลและอิหร่าน ที่หากบานปลายเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค หรือรุนแรงขึ้นจนช่องแคบฮอร์มุซถูกปิดลงอาจกระทบราคาพลังงานและทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทั่วโลก เพิ่มความเสี่ยงเงินเฟ้อและซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่เผชิญผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมถึงทำให้การขนส่งได้รบผลกระทบ และการค้าโลกอาจชะลอลงไปมากขึ้น