ซาอุฯ ตั้งมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เป็นนายกรัฐมนตรี
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด ตามที่ระบุไว้ในพระราชกฤษฏีกา นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งให้เจ้าชายคาห์ลิด บิน ซัลมาน ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแทนมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “เอ็มบีเอส” (MBS) ทรงดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ด้วยพระราชกิจของพระองค์ก่อนหน้านี้ รวมถึงบทบาทต่างๆ ในการเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ รวมถึงเป็นประธานในการประชุมที่อิหร่านเป็นเจ้าภาพ ทำให้พระองค์ได้รับการพูดถึงในฐานะผู้นำคณะรัฐบาลของซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัย และจากการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ก็ส่งผลให้พระองค์ทรงกลายเป็นผู้นำคณะรัฐบาลที่แท้จริงทั้งโดยพฤตินัยและนิตินัย
สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า ในช่วงเวลาที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บทบาทที่โดดเด่นของพระองค์คือการทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำในปฏิบัติการ “โอเปอเรชั่น ดีไซซีฟ สตอร์ม (Operation Decisive Storm) ของกองกำลังพันธมิตรที่โจมตีกลุ่มกบฏฮูธิ ในเยเมน ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 ขณะเดียวกัน พระองค์ยังผลักดันนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าว เพื่อตอบโต้การขยายอิทธิพลของประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่างอิหร่าน
นอกจากนี้ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด ยังมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรากฐานต่างๆ ในซาอุดีอาระเบีย ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเรื่องความหลากหลายทางเศรษฐกิจของประเทศ แทนที่จะพึ่งพารายได้จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว และยังผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้หญิงสามารถขับรถได้ รวมถึงควบคุมอำนาจของนักบวชที่มีต่อชุมชนไม่ให้มากจนเกินสมควร
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปที่เกิดขึ้นก็นำมาซึ่งการปราบปรามผู้ที่เห็นต่างครั้งใหญ่ โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 มีรัฐมนตรี 4 คน, เจ้าชายอีก 11 พระองค์ และผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงจำนวนมากถูกควบคุมตัวตามคำสั่งของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด ภายใต้มาตรการกวาดล้างเหตุทุจริต อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวได้มุ่งเป้าไปที่คู่แข่งของพระองค์จำนวนมาก และเป็นเหมือนการรวมอำนาจของพระองค์ในซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่า วิสัยทัศน์ของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด มีผลต่อการพัฒนาประเทศของซาอุดีอาระเบียอย่างมาก โดยเมื่อเดือนเมษายนปี 2016 พระองค์ เคยนำเสนอเรื่องวิสัยทัศน์ของซาอุดีอาระเบียในอนาคต หรือที่เรียกว่า “วิชั่น 2030” (Vision 2030) โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์รวมของชาติอาหรับและอิสลาม รวมถึงเป็นมหาอำนาจในด้านการลงทุน และศูนย์กลางที่เชื่อมระหว่าง 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป และแอฟริกา เข้าด้วยกัน
————
📲 อัพเดทข่าวและบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://page.line.me/tnnworld
ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok