รีเซต

'คลัง' เร่งลงดาบคนโกง 'คนละครึ่ง' เต็มที่

'คลัง' เร่งลงดาบคนโกง 'คนละครึ่ง' เต็มที่
มติชน
20 ธันวาคม 2563 ( 05:11 )
83
'คลัง' เร่งลงดาบคนโกง 'คนละครึ่ง' เต็มที่

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงการคลัง ได้พบความผิดปกติในการทำธุรกรรมที่เข้าข่ายทุจริต ในโครงการคนละครึ่ง จึงนำข้อมูลประสานงานกับทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. โดยความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว 1 ราย จำนวน 4 คน จากจำนวนกว่า 700 ราย ตรวจสอบแล้วพบว่า อาจเข้าข่ายกระทำความผิด ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งชุดปฏิบัติการสืบสวน เพื่อสนับสนุนในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องระยะเวลาการตรวจสอบและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดนั้น ยังต้องรอเจ้าหน้าที่ทำคดีต่อไป ซึ่งงขณะนี้ตำรวจก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ จึงเชื่อว่าคงไม่ช้าอย่างแน่นอน

 

“การตรวจสอบผู้เข้าข่ายกระทำความผิด ว่าจะมีความผิดชัดเจนจริงหรือไม่นั้น คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก เพราะจำนวนที่สงสัยมีค่อนข้างมาก ส่วนจะเสร็จภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ได้เลยหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาได้ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบกับการดำเนินโครงการแน่นอน ” นายพรชัย กล่าว

 

นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนรอบเก็บตก เพื่อเปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนไม่ทัน กรอกข้อมูลแล้วไม่ได้รับรหัสยืนยัน (โอทีพี) เข้าลงทะเบียนอีกครั้ง ยังต้องรอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณารายละเอียดและสั่งการอีกครั้ง แต่หากได้วันมาแล้วก็สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะมีกำหนดผู้ที่เข้าร่วมโครงการไว้รวม 15 ล้านคนอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่เต็มตามจำนวนที่กำหนด ส่วนกรณีการเพิ่มเฟสใหม่นั้น ยังต้องรอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ เพื่อดูเรื่องงบประมาณที่ต้องใช้เพิ่มเติม และต้องประเมินตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะถัดไปด้วย

 

นายพรชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ บรรยากาศการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงสิ้นปี ประเมินว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น เพราะรัฐบาลมีโครงการกระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน โดยเฉพาะคนละครึ่ง ที่มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 1.3 ล้านราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ผู้ที่ได้รับสิทธิใช้เงินในรอบแรก 3,000 บาท และรอบ 2 จำนวน 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้สะดวกมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง