ประชาธิปัตย์: จุรินทร์ห่วงปัญหาพรรคขาดเอกภาพ ด้าน ส.ส.วิจารณ์แรง "พรรคดีแต่พูด"
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันว่าพรรคยังมีอุดมการณ์ แต่แสดงความกังวลถึงปัญหาขาดเอกภาพในพรรค ขณะที่รองเลขาธิการ ปชป. ระบุพรรค "มีแนวโน้มตกต่ำลงต่อเนื่อง ไร้วี่แววจะฟื้น" เพราะ "ดีแต่พูด เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อน"
นายจุรินทร์กล่าวในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของ ปชป. วันนี้ (19 ก.ค.) ว่าเขามั่นใจว่า ปชป. จะสามารถเติบโตได้อีก หลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคได้ ส.ส. เพียง 52 คน เป็นพรรคลำดับที่ 5 ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจัยที่จะนำมาสู่ความสำเร็จคือการยึดมั่นและดำเนินการตามอุดมการณ์ของพรรคที่มีอยู่ 3 ข้อ คือ อุดมการณ์ประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, อุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์สุจริต และอุดมการณ์แห่งการมุ่งมั่นในการรับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
ในที่ประชุมพรรควันนี้ ส.ส.ส่วนหนึ่งตั้งคำถามถึงอุดมการณ์ของพรรคว่ายังมีอยู่หรือไม่จากการที่ ปชป. ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาล
- กรณ์ จาติกวณิช ประกาศลาออกจากประชาธิปัตย์ ผ่านเฟซบุ๊ก
- ประชาธิปัตย์ ยก "พระเจ้าตากโมเดล" อ้างต้องเดินหน้าร่วมรัฐบาล พปชร.
- จุรินทร์ คว้าเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8
นายจุรินทร์กล่าวว่าผลการเลือกตั้งทำให้พรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองค่อนข้างยาก เพราะ ส.ส. มีไม่พอที่จะตั้งรัฐบาล หากพรรคจะไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็มีข้อจำกัด เพราะไม่สามารถไปเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้
"มีคำถามว่า ทุกวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังมีอุดมการณ์หรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ยังมีอุดมการณ์ เพราะอุดมการณ์คือรากแก้วของความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าไม่มีอุดมการณ์ก็ไม่ต่างกับต้นไม้ที่ไม่มีราก" นายจุรินทร์กล่าว
เขากล่าวว่าพรรคจะกลับมาเติบโตได้ด้วยการมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ซึ่งทำได้ผ่าน 3 กลไกของพรรค คือ กลไกรัฐมนตรีที่จะผลักดันนโยบายของพรรค เช่น นโยบายประกันรายได้เกษตรกรและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำประเทศก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ส่วนอีก 2 กลไก คือ ส.ส. ในรัฐสภา และกรรมการบริหารพรรคที่หลังจากนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเตรียมความพร้อมในการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง ส.ก. และ ส.ข.
อย่างไรก็ตามนายจุรินทร์กล่าวว่า หากคนในพรรคขาดความเป็นเอกภาพแล้ว ก็ยากที่พรรคจะประสบความสำเร็จได้ รวมทั้งยังบั่นทอนอนาคตของพรรคและทุกคนในพรรคด้วย
"ดีแต่พูด เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่เพื่อน"
นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการ ปชป. วิจารณ์พรรคอย่างดุเดือดระหว่างการประชุมว่า ปชป. มีแนวโน้มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องและไร้วี่แววจะฟื้นในอนาคต เพราะเดินผิดทาง เปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤต ส่งผลให้แพ้เลือกตั้ง สูญเสียที่นั่ง ส.ส.ในทุกเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ กทม.ที่ไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว
"สาเหตุแห่งความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ มาจากประชาชนผิดหวังกับการกระทำของพรรค และพรรคไม่สามารถลบล้างข้อครหาที่เป็นตราบาปของพรรคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีแต่พูด เอาดี ใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในระหว่างสมาชิกพรรค" นายอันวาร์กล่าว
เขาเสนอว่า ปชป. จะต้องยกเครื่องการทำงานและนโยบายครั้งใหญ่เพื่อให้พรรค "หลุดพ้นจากความตกต่ำและหวนกลับมาครองใจประชาชน"
นายอันวาร์กล่าวว่า ปชป. ควรเน้นการทำงานใน 3 ประเด็นหลัก คือ แก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19
เขายังเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาพรรรค เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการพื้นฟูพรรคอย่างเป็นระบบ