ฝรั่งเศส ประกาศเคอร์ฟิวคุมเหตุจลาจล มีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 600 คน
ฝรั่งเศส ประกาศเคอร์ฟิวและยกเลิกระบบขนส่ง เพื่อรับมือกับเหตุจลาจลทั่วประเทศ ขณะที่มีผู้ถูกจับกุมรวมแล้วกว่า 600 คน
ความคืบหน้าเหตุความวุ่นวายในฝรั่งเศส หลังจากเกิดการประท้วงลุกลามเข้าสู่วันที่ 3 เนื่องจากประชาชนไม่พอใจกับการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจที่ยิงวัยรุ่นชาย วัย 17ปี เสียชีวิตระหว่างเรียกจอดรถยนต์ ล่าสุดทางการท้องถิ่นกรุงปารีส ได้สั่งหยุดบริการรถบัสโดยสาร และรถรางในพื้นที่กรุงปารีสเร็วกว่าปกติ หรือ ก่อนตะวันตกดิน เพื่อเป็นมาตรการป้องกันความปลอดภัยของพนักงานในระบบขนส่งสาธารณะและผู้โดยสาร แม้จะกระทบต่อการเดินทางของประชาชนทั้งในและนอกกรุงปารีสหลายพันคน
ขณะที่เมือง แกรมมาร์ ที่ต้องอยู่แถบชานเมือง ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ประกาศบังคับใช้กฏเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน ระหว่าง เวลา 21.00-06.00 น. ในวันนี้ไปจนถึงวันจันทร์หน้า เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น เหมือนกับในหลายเมือง รวมทั้งในกรุงปารีส ในช่วง 3-4 วัน ที่ผ่านมา
เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคาร ทำให้ทางการฝรั่งเศส ต้องเพิ่มประจำการตำรวจมากขึ้นหลายเท่ารวมทั้งในกรุงปารีส แต่การประท้วงและเผาทำลายข้าวของและอาคารสถานที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ตำรวจจะพยายามยิงแก๊สน้ำตาสกัดเหตุรุนแรง ทั้งที่เมืองนองแตร์ เมืองที่เกิดเหตุและเมืองอื่นๆตั้งแต่ตูลูส ทางตอนใต้ไปจนถึงเมืองลีลทางเหนือ แต่ความเสียหายรุนแรงส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงปารีส
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว 170 คน อาคารที่ทำการสาธารณะได้รับความเสียหายอย่างน้อย 90 แห่ง รวมทั้งโรงเรียน สถานีตำรวจ อาคาร ศาลากลางเมือง และอื่นๆ และมีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 600 คน ด้านประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการฉุกเฉินอีกครั้งในวันนี้ (30 มิ.ย.) เพื่อวางแผนรับมือกับเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
ขณะที่ ตำรวจที่ยิงวัยรุ่นชายอายุ 17 ปี เสียชีวิต ระหว่างเรียกจอดรถยนต์ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม และขอโทษต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว แต่การชุมนุมประท้วงกลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อผู้ต้องสงสัย ขณะที่ นายเจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีกิจการภายในของฝรั่งเศส ประณามการที่ผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง และยืนยันว่าการจับกุมผู้ก่อเหตุจำนวนมาก ก็เพื่อย้ำเป้าหมายที่จะยุติสถานการณ์โดยเร็ว
ภาพจาก รอยเตอร์