ข้าวหลามโบราณขายดิบขายดี หลังอากาศหนาวเย็น

ในช่วงสภาพที่มีอากาศหนาวเย็น ของกินที่ขายอย่างดี อย่างหนึ่ง ในช่วงนี้ก็คงจะเป็นข้าวหลาม โดยข้าวหลามไส้ต่างๆ เช่น  ไส้สังขยา ไส้ถั่วดำ  สังขยา งาขี้ม่อน เผือก เป็นข้าวหลามต้นตำรับ ที่  ขาย กันมายาวนานกว่า 80 ปี  คือข้าวหลามแม่คำมูลต้นตำรับข้าวหลามเจ้าแรกในจังหวัดลำปาง   ได้ถูกนำมา เรียง  นำ มาย่าง บนเตาเผา เตาถ่าน               

ซึ่งเป็นเตาถ่าน  ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า  โดยจากการสอบถาม  นางนิธิวดี  สุพรมอิทร์ อายุ 51 ปีเจ้าของร้านขายข้าวหลามแม่คำมูล  เป็นเจ้าของร้านขายข้าวหลาม โบราณประจำของเมืองลำปาง  ตั้งอยู่ บริเวณใกล้กับสะพานรัษฎา  ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองจังหวัดลำปาง  โดยการทำข้าวหลาม มีการ พิถีพิถันตั้งแต่การปรุงเครื่องทำข้าวเหนียวใส่กะทิ  แล้วตัดกระบอกไม้ไผ่ต่างๆ  นำข้าวหลาม มาย่างบนเตาถ่าน โดยจะเป็นกระบอกข้าวหลามสีเขียวเรียงรายวางบนตะแกรงเหล็กย่าง  ด้วยเตาถ่าน นำมาวางขายและมีประชาชนนักท่องเที่ยวที่ ทราบข่าว ต่างมา ซื้อ  กันอย่างคึกคัก                         

โดยการเร่งเผาข้าวหลามตื่นกันตั้งแต่เช้า เตรียมของตั้งแต่ตี 3 และ เปิดร้านขายตั้งแต่เวลา 7:00 น.ไปถึง 16.00 น.แต่ ละวันหากของหมดก่อน ก็จะปิดร้านเร็วหน่อย โดยเมื่อนักท่องเที่ยวขับรถผ่าน บริเวณถนนใกล้กับสะพานรัษดาก็จะจอดแวะ ซื้อเป็น ประจำ   ส่วน ราคาขายข้าวหลามต้นตั้ง  25  -30  -40  บาท  โดยข้าวหลามก็ยังคงขายดี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวก็จะเริ่มเผาข้าวหลามตั้งแต่ตี 4 ทุกวัน ในเตาเผาสด    ส่วน ร้าน มีลูกค้าประจำและลูกค้า ขาจรมาแวะเวียน ซื้ออย่างไม่ขาดสาย ส่วนบางรายลูกค้าโทรมาจองก่อน  เพื่อจะนำข้าวหลาม ไปเผาสดเอง    ก็สร้างบรรยากาศในการกินได้และข้าวหลาม ก็มีประโยชน์กับร่างกาย ถั่วก็จะให้โปรตีน สูง   กะทิ ให้พลังงานในรูปแบบของไขมัน แป้งข้าวเหนียวก็จะทำให้ร่างกายคล่องแคล่วและแคลเซียมก็จะเสริมสร้างส่วนสึกหรอของร่างกายอีกด้วย  หากลูกค้าใดสนใจจะสั่งซื้อหรือจองล่วงหน้าหรือมา ไม่ถูกก็โทรศัพท์มาได้ที่ เบอร์โทร ร้าน ข้าวหลามแม่คำมูล 086-915-0378

โดย  นางนิธิวดี สุพรมอินทร์  หรือคุณต่าย  ซึ่งเป็นทายาทรุ่น 4 ของข้าวหลามแม่คำมูล ยังบอกอีกว่า บอกว่าจุดเริ่มต้นของข้าวหลามนี้ ก็คือยายม้วนซึ่งขายข้าวหลามมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วโดยตนเองและครอบครัวก็ยึดถือปฏิบัติสืบต่อในสูตรการทำข้าวหลามต่อๆ กันมาและเอามาดัดแปลงนิดหน่อย                     

นอกจากส่วนผสมที่สำคัญเป็นข้าวเหนียวมูล เกลือน้ำตาลแล้ว  ก็ใส่กะทิลงไปด้วยปรากฏว่ารสชาติหอมอร่อย ประกอบกับไม้ไผ่ที่เผานั้นเวลาย่างแล้วก็จะเป็นเยื่อเคลือบบริเวณข้าวเหนียวยิ่งทำให้ข้าวหลามในกระบอกไม้ไผ่ที่ปอก  แกะเปลือกไม้ไผ่เอามาแล้วยิ่งน่าทานอีกด้วย

มีการพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการ นำมะพร้าวคั้นกะทิเอง แต่ก็คงรักษาทำสูตรการทำข้าวหลามเหมือนเดิมทุกอย่าง และมีการสั่งต้นไผ่มาจากเจ้าประจำพื้นที่อำเภอแจ้ห่มจังหวัดลำปางเป็นไม้ไผ่ตามธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามร้านขายข้าวหลาม ถึงแม้จะเป็นเพิงเล็กๆ ริมถนน แต่ก็ต้องตื่นมาพร้อมกับ สามีคุณธนพล ต้องตื่นมาตั้งแต่ 03:00 น.มาทำความสะอาดกระบอกไม้ไผ่ และ กรอกข้าวเหนียวมูล และถั่วดำ ตามด้วยกะทิและเกลือลงไปตามส่วนผสม และใช้กะทิที่ทำมา ใช้ จะเน้น มะพร้าว จากภาคใต้จน นำ มาคลุกเคล้า ได้ส่วนผสมข้าวหลามดังกล่าว 

การปิ้ง ข้าวหลามนั้น บนเตาถ่าน ก็จะได้อรรถรสมีกลิ่นหอมจากเตาถ่านมากระทบกับกระบอกไม้ไผ่ ทำให้กลิ่นหอมของไม้ไผ่และการย่างข้าวหลาม กลิ่นหอมโชยไป ทั่วบริเวณ ร้าน ซึ่งเป็นที่ชอบและนิยมของนักท่องเที่ยว          

โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวนี้  อากาศเย็นทานข้าวหลามกันอุ่นอุ่น หากลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดก็สามารถติดต่อโทรศัพท์มาได้  มีบริการส่ง ข้าวหลาม  ทางขนส่งเอกชนและไปรษณีย์ทั่วไปอีกด้วย