กว่า 5 เดือน สรรพากรจัดเก็บภาษี 'อี-เซอร์วิส' สะสมแล้ว 3.1 พันล้าน
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากรได้ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service : VES) ที่ให้บริการกับผู้ใช้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมานั้น ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มรวม 127 ราย และมียอดมูลค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวม 44,569 ล้านบาท คิดเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บสะสม 5 เดือน (เดือนภาษีกันยายน 2564-มกราคม 2565) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,120 ล้านบาท
นายเอกนิติระบุว่า ผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแยกตามประเภทแพลตฟอร์มและบริการสะสม 5 เดือน โดยบริการโฆษณาออนไลน์ มีมูลค่าบริการ 28,013.66 ล้านบาท จัดเก็บได้ 1,960 ล้านบาท , บริการขายสินค้าออนไลน์ มีมูลค่าบริการ 1,982 ล้านบาท จัดเก็บได้ 838 ล้านบาท บริการสมาชิก เพลง หนัง เกม ฯลฯ มีมูลค่าบริการ 4,023 ล้านบาท จัดเก็บได้ 281 ล้านบาท, บริการแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลาง มีมูลค่าบริการ 367 ล้านบาท จัดเก็บได้ 25.76 ล้านบาท และบริการแพลตฟอร์มจองที่พัก ตั๋วเดินทาง ฯลฯ มีมูลค่าบริการ 182 ล้านบาท จัดเก็บได้ 12.79 ล้านบาท
“การจัดเก็บภาษีอี-เซอร์วิส จากผู้ประกอบการต่างประเทศ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ใช้บริการในประเทศไทยที่จัดเก็บได้จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 5 เดือนนั้น ทำให้คาดได้ว่าภายใน 1 ปี ทางกรมสรรพากรจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศประมาณ 8 พัน-1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่เคยมีการคาดการณ์ไว้แต่เดิมว่าจะจัดเก็บได้ที่ประมาณ 5 พัน ล้านบาท” นายเอกนิติกล่าว
นายเอกนิติกล่าวอีกว่า การเก็บภาษีอี-เซอร์วิส นอกจากเป็นการช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับประเทศแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ด้วยการนำภาษีมาสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น