ทองบวก ขานรับเฟด ลดดอกเบี้ย

ทองโลกปรับตัวขึ้น จากการที่ดัชนีดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลงสู่ระดับ 97.7 หน่วย จากระดับสูงสุดที่ 98.6 หน่วยในวันเดียวกัน อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.25% จากจุดสูงสุดที่ 4.32% สืบเนื่องมาจากงาน Jackson Hole เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้เลือกที่จะเปิดช่องทางลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้จากอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว อีกทั้งในด้านของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
อันมีผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่เฟดประเมินว่าเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนแล้ว จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ตลาด CME Fed Watch ได้ออกมาคาดการณ์ถึง 87% จาก 70% ว่า เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. และมีโอกาส 48% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตาม พาวเวลได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงกรอบนโยบายของเฟดใหม่ โดยต่อจากนี้ไป เฟดอาจยกเลิกมาตรการเงินเฟ้อเฉลี่ยหรือ AIT (Average Inflation Targeting) และผลักดันนโยบายเชิงรุก ด้วยการตอบสนองต่อเงินเฟ้อทันทีหากเงินเฟ้อยังไม่ลงสู่ 2% แทนการรอค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อก่อนแล้วค่อยตัดสินใจปรับขึ้น / ลดดอกเบี้ย ซึ่งอาจทำให้ในอนาคต ทองโลกอาจมีความผันผวนสูงขึ้น ทางด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม รวมสุทธิ 956.77 ตัน
ราคาทองโลกกลับตัวเป็นขาขึ้น แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 3,380 ดอลลาร์ และมีการย่อตัวลง จึงประเมินว่า ทองโลกมีโอกาสปรับฐานลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 3,350 ดอลลาร์ และอาจฟื้นตัวกลับขึ้นไป แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,340 ดอลลาร์ ทองโลกอาจกลับสู่ระยะ Sideway อีกครั้ง คืนนี้เวลา 21.00น. สหรัฐฯ เผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. (ยูนิต)
ราคาทองโลกกลับตัวเป็นขาขึ้น แนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,350 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,380 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,340 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุนไปก่อน
ราคาทองในประเทศยังคง Sideway จากการที่ทองโลกเป็นขาขึ้น แต่ค่าเงินบาทแข็งค่าหนัก จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,500 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 51,800 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,400 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน