ไฟไหม้สำเพ็งล่าสุด วสท.ตรวจโครงสร้างตึก เสียหายเกือบ 100% ต้องรื้อถอน
จากกรณีเหตุไฟไหม้ที่ย่านตลาดสำเพ็ง กทม.โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีผู้ได้ยินเสียงดังและไฟปะทุขึ้น 3 รอบ ก่อนจะเกิดเปลวเพลิงลุกลามอาคารพาณิชย์หลายคูหา
ล่าสุด วันนี้ (27 มิ.ย.65) วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และ สำนักการโยธา กทม. เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ ย่านสำเพ็งที่ถูกไฟไหม้เมื่อวานนี้
จากการตรวจสอบพบว่า อาคารภายในเสียหายเกือบ 100% โดยเฉพาะห้องที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายถุงพลาสติก ได้รับความเสียหายมากที่สุด เพราะผนังของอาคารเป็นอิฐก่อเสริมโครงเหล็ก เพื่อทำเป็นชั้นวางของ เมื่อเจอความร้อน เหล็กจึงเสียรูป ทำให้พื้นแอ่นตัวลามไปจนถึงชั้น 3 และความร้อนยังแผ่ไปจนถึงผนนังด้านหลังอาคารจนบิดตัวเช่นกัน
ด้าน นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. ระบุเบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุได้โครงสร้างอาคารมีการดัดแปลงหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบใบขออนุญาติ แต่ตัวโครงสร้างอาคารไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ต้องรื้อถอนทิ้ง โดยต้องทำการค้ำยันกันฝ้าและผนังอาคารทรุดตัว
ส่วนตึกพาณิชย์ที่อยู่ตรงหม้อแปลง ความเสียหายน้อย เพราะเป็นอาคารเสริมเหล็ก หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่มาประเมินกับสำนักงานเขตสัมพันธุ์วงศ์ว่า จะต้องใช้ระยะเวลารื้อถอนนานเท่าใด แต่ระบุว่าพื้นที่จุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่เด็ดขาด ส่วนประชาชน ขอให้อยู่ห่างจากอาคารเท่าที่ทำได้
ขณะที่ นายวิลาส เฉลยสัตน์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ระบุว่า ยังไม่ยืนยันสาเหตุว่าเป็นเพราะหม้อแปลงมีปัญหาหรือไม่ และยืนยันว่าหม้อแปลงไม่ได้ระเบิด แต่หากดูจากสภาพแวดล้อมยอมรับว่าต้นเพลิงก็มาจากหม้อแปลง
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วหม้อแปลงแต่ละลูกจะมีอายุการใช้งาน 25 ปี ส่วนหม้อแปลงลูกที่เกิดเหตุตรวจสอบแล้วใช้งานมาแล้ว 20 ปี และเพิ่งตรวจสภาพการใช้งานไปเมื่อกลางปีที่แล้ว พร้อมยืนยันว่า การติดตั้งหม้อแปลงแต่ละจุดเป็นไปตามาตรฐาน คือห่างจากอาคาร 60 เซนติเมตร
เบื้องต้นขอยอมรับในความผิดพลาดไว้ก่อน ส่วนประชาชนจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมเยียวยาผู้เสียและผู้เสียชีวิต พร้อมระบุว่า ช่วงก่อนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงมาเตรียมการเปิดใช้งาน เปิดสวิตซ์ เพื่อให้กระแสไฟเข้าสู่ระบบ แต่ในช่วงระหว่างเดินทางกลับไปเพื่อรายงาน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟดับ และเกิดเพลิงไหม้.
ภาพจาก TNN ONLINE