รีเซต

รายงานเผยศัตรูตัวฉกาจของเครื่องบินล่องหน B-2 คือ น้ำฝนและความชื้นในอากาศ

รายงานเผยศัตรูตัวฉกาจของเครื่องบินล่องหน B-2 คือ น้ำฝนและความชื้นในอากาศ
TNN ช่อง16
29 ธันวาคม 2568 ( 14:07 )
2

ปัจจุบันแม้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 Spirit จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอากาศยานที่ทรงพลังและตรวจจับได้ยากที่สุดในโลก แต่รายงานล่าสุดจากเหล่าวิศวกรระบุว่าน้ำฝน และความชื้นกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่กัดเซาะผิวหนังพรางตัว (stealth) และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างรุนแรง

จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เครื่องบินที่มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 62,466 ล้านบาท ลำนี้มีข้อบกพร่องในการออกแบบที่ทำให้น้ำสามารถเข้าไปสะสมตามห้องโดยสาร ท่อทางเดิน และวาล์วต่าง ๆ ได้ โดยรายงานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของสหรัฐฯ (GAO) ยืนยันว่า B-2 มีความอ่อนไหวสูงต่อสภาพอากาศที่รุนแรง โดยเฉพาะความชื้นที่สามารถทำลายพื้นผิวเคลือบพิเศษที่ช่วยในการพรางตัวจากเรดาร์ได้ นอกจากนี้ หากน้ำที่สะสมเกิดแข็งตัว อาจต้องใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงในการละลายและระบายออก

ภาระด้านการบำรุงรักษาและผลกระทบต่อภารกิจ ทำให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ เห็นว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ไม่เหมาะกับการส่งไปปฏิบัติการในพื้นที่ที่ไม่มีโรงจอดแบบปิด เนื่องจากวัสดุพรางตัวบางส่วนมีความเปราะบางและไม่ทนทานอย่างที่คาดไว้ จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิและความชื้นทุกครั้งหลังการบิน ข้อมูลจากการทดสอบระบุดังนี้

1. ในการบิน 1 ชั่วโมง ต้องใช้เวลาซ่อมบำรุงสูงถึง 80 ชั่วโมงคน โดย 39% ของเวลานั้นถูกใช้ไปกับการซ่อมแซมวัสดุพรางตัว
2. หากไม่พิจารณาเรื่องระบบพรางตัว B-2 จะมีความพร้อมปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ 66% แต่หากนำปัจจัยด้านการพรางตัวมารวมด้วย อัตราความพร้อมจะลดลงเหลือเพียง 26% เท่านั้น

โศกนาฏกรรมจากความชื้น 

ทีมงานตรวจสอบเชื่อว่าปัญหาจากน้ำฝนไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องการบำรุงรักษา แต่เคยนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงมาแล้ว ในปี 2008 เครื่องบิน B-2 ชื่อ "The Spirit of Kansas" ประสบอุบัติเหตุตกที่ฐานทัพอากาศแอนเดอร์สันในเกาะกวม ผลการสอบสวนพบว่ามีความชื้นเข้าไปในหน่วยส่งสัญญาณ (Port Transducer Units) ระหว่างการปรับเทียบข้อมูลอากาศ ส่งผลให้ข้อมูลการบินบิดเบือนและเครื่องบินตกในที่สุด

แนวทางการแก้ไขในอนาคต 

ปัจจุบันบริษัท Northrop Grumman ได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ติดเทปและเคลือบผิวชั้นนอกให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับ B-2 นอกจากนี้ ประสบการณ์จาก B-2 ยังถูกนำไปใช้กับเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง B-21 Raider โดยมีการวางแผนให้การเคลือบผิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความทนทาน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง