รีเซต

เปิดข้อดี-ข้อเสีย ต้องรู้! ก่อนลงทุนหุ้น "VGI"

เปิดข้อดี-ข้อเสีย ต้องรู้! ก่อนลงทุนหุ้น "VGI"
ทันหุ้น
3 สิงหาคม 2566 ( 15:03 )
160

บล.กสิกรไทย จำกัด ส่องหุ้น VGI คาดผลขาดทุน 1QFY67 ที่ 250 ลบ. (เทียบกับขาดทุน 1QFY66 ที่ 180 ลบ. และขาดทุน 4QFY66 ที่ 29 ลบ.) ห่างจากคาดการณ์กำไรปกติทั้งปีของฝ่ายวิจัยที่ 439 ลบ. ไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำไรในระยะสั้น ฝ่ายวิจัยคงประมาณการและราคาเป้าหมายเดิมและรอกลยุทธ์ธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้นจากผู้บริหาร แนะนำ “ถือ” เนื่องจากการเทขายหุ้นในช่วงที่ผ่านมาคาดสะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอแล้ว ขณะที่บริษัทฯ กำลังปรับโครงสร้างกลยุทธ์ซึ่งคาดจะทำให้กำไรฟื้นตัวช้า

 

 

พรีวิวไตรมาส 1QFY67 หุ้น VGI มีกำหนครายงานงบการเงินไตรมาส 1QFY67 ในวันที่ 15 ส.ค.2566 คาดว่า VGI จะรายงนผลขาดทุนปกติที่ 250 ลบ. เทียบกับผลขาดทุนปกติไตรมาส 1QFY67 ที่ 180 ลบ. และผลขาดทุนปกติไตรมาส 4QFY66 ที่ 292 ลบ. สาเหตุที่ผลขาดทุนปกติลดลง YoY คาดจะมาจากรายได้ที่ฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่งจากกิจกรรมเศรษจกิจที่ดีขึ้น ขณะที่สามเหตุที่ผลขาดทุนปกติลดลง QoQ คาดจะมาจากผลขาดทุนที่น้อยลงจาก Fanslink และบริษัทในเครืออื่น ๆ เช่น JMART (เราไม่ได้วิเคราะห์), KEX (แนะนำ "ขาย" ราคาเป้าหมาย 9.54 บาท และ MACO (เราไม่ได้วิเคราะห์) พริวิวผลขาดทุนปกติไตรมาส 1QFY67 ของฝ่ายวิจัยน้อยกว่าประมาณการกำไรปกติทั้งปี FY2567 ของฝ่ายวิจัยที่ 439 ลบ. อยู่มาก ฝ่ายวิจัยจะทบทวนประมาณการหลังเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการในวันที่ 15 ส.ค.2566

 

การดำเนินงาน ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ไตรมาส 1QFY67 จะอยู่ที่ 1.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% YoY จากรายได้สื่อนอกบ้าน (O0H) ที่พื้นดังนั้นแข็งแกร่ง แต่คาดลดลง 1.3% QoQ จากการปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ของ Fanslink ฝ่ายวิจัยคาดว่าได้จากสื่อ OOH  ในใตรมาส 1QFY67 จะอยู่ที่ 538 ลม. เพิ่มขึ้น 30.8%YoY และ 14% QoQ หนุนจาก utilization rat ที่ดีขึ้นเป็น 50% ในไตรมาส 1QFY67 เทียบกับที่ 39% ในไตรมาส 1QFY66และ 40% ในใตรมาส 1QFY66 และ 40% ในไตรมาส 4QFY66 

 

ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดว่า PLANB จะรายงน uilization rate ของสื่อ OQH ที่ 63.9% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งส่งผลให้รายได้จากสื่อ OOH ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งส่งผลให้รายได้จากสื่อ OOH ในไตรมาส 2/2556 รวมอยู่ที่ 1.5 พันลบ. (+14.8% YOY และ + 6.5% QoQ) ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จาก Fanslink ในใตรมาส 1QFY67 จะอยู่ที่ 316 ลบ. ลดลง  14.8% QoQ และคาดว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาส 1QPY67 จะอยู่ที่ 177 ลบ. เทียบกับผลขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาส 1QFY67 จะอยู่ที่ 177 ลบ. เทียบกับผลขาดทุนที่ 131 ลบ. ในไตรมาส 1QFY66 และผลขาดทุนที่ 233 ลบ, ในไตรมาส 4QFY66

 

ส่วนแบ่งผลขาดทุน ฝ่ายวิจัยคาคว่ากำไรสุทธิของ VGI จะยังมีปัจจัยฉุดจากผลขาดทุนต่อเนื่องจากการลงทุนในบริษัทในเครือ เช่น JMART และ KEX ในใตรมาส 1QFY67 ฝ่ายวิจัยคาดว่าส่วนแบ่งผลขาดทุนจะอยู่ที่ 170 ลบ. ซึ่ง 64.1% คาดจะมาจากพรีวิวผลขาดทุนปกติไตรมาส 2/2566 ของ KEX ของฝ่ายวิจัยที่ 703 ลบ., 34.3% คาดจะมาจากพริวิวผลขาดทุนปกติไตมาสปกติไตรมาส 2/2566 ของ JMART ของตลาดที่ 250 ลบ. และที่เหลือคาคจะมาจาคผลขาดทุนจาก Rabbit Line Pay และบริษัท เดโม พาวเวอร์ จำกัด ทั้งนี้ VGI ถือหุ้น 15.5% ใน KEX และ 13.7% ใน JMART

 

มุมมองของฝ่ายวิจัย มีมุมมองลบต่อผลขาดทุนอย่างต่อเนื่องของ VGI และยังผิดหวังกับการที่ VGI สูญเสียส่วนแบ่งรายใด้ของสื่อ O0H ไปให้กับ PLANB ขณะที่ฝ่ายวจัยไม่เห็นสัญญาณ แนวโน้มผลการดำเนินงานในเชิงบวกจากธุรกิจใหม่ของ VGI เช่น fintech, insuretech, e-payment และ e-commerce เป็นต้น อีกทั้งทั้ง ฝ่ายวิจัยยังไม่คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทในเครือจะพลิกฟื้นขั้นเร็ววันนี้ ดังนั้น คาดการณ์กำไรสุทธิปี FY2566/67-FY2568/69 ของฝ่ายวิจัยและราคาเป้าหมายของ VGI จึงคาดจะมีความเสี่ยงข้าลง ฝ่ายวิจัยกำลังรอกลยุทธ์ธุรกิจที่ชัดเจนมาก ขึ้นจาคผู้บริหารของ VGI ในการประชุมวันที่ 16 ส.ค.2566 ก่อนจะทบทวนประมาณการของฝ่ายวิจัยอีกครั้ง

 

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ในเชิง YTD ราคาหุ้น VGI  ลดลง 41% เทียบกับ SET ที่ ลดลง 8.3% แต่ของ PLANBเพิ่มขึ้น 15.2% ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี FY2566/67 และ FY2568/69 ที่ 73.4 เท่า และ 43.1 เท่า

 

ทั้งนี้ แนะนำ "ถือ" ขณะนี้ ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติปี FY2566/67-FY (2568/69 ราคาเป้าหมายสิ้นปี FY2566/67 อิงด้วยวิธี SOTP ที่ 3.58 บาท และคำแนะนำ "ถือ" VGI  ยังเป็นหุ้นที่ชอบน้อยที่สุดในกลุ่มสื่อ ปัจจัยจุดตัวคูณมูลค่าหุ้นคาดจะมาจาก 1) การปรับลดประมาณการกำไรสุทธิและราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยและตลาด และ 2) กำไรสุทธิที่คาดต้องใช้เวลากว่าจะฟื้นตัว ขณะที่ปัจจัยหนุนคาดจะมากจาก 1) พัฒการเชิงบวกใดๆ ของสัมปทานรถไฟฟ้าสานสีเขียวหลักและ 2) การเทขายหุ้นซึ่งน่าจะทำให้ราคาห์นอยู่ในโซนขายมากเกินไป 

 

Upside risks ได้แก้ 1) Utilization rate ที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด 2) กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากดีล M&A และ 3) ส่วนแบ่งขาดทุนที่ลดลงจาก KEX และ JMART

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง