‘ททท.’ ชี้มติ ‘ศบค.’ ผ่อนคลายเกณฑ์รับต่างชาติเที่ยวไทย หนุนเป้า 10 ล้านคนทั้งปี 65
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่องการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักรฯ ได้แก่ 1.เพิ่มช่องทางเทสต์ แอนด์ โก ทางบก โดยมีจังหวัดนำร่องคือ หนองคาย อุดรธานี และสงขลา รวมถึงทางน้ำ แต่กำหนดเฉพาะเรือยอร์ช ในระยะแรกก่อน 2.เทสต์ แอนด์ โก ยกเลิกการจองที่พักและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่สอง ในวันที่ 5 โดยปรับใช้เป็นการมอบ Self ATK ซึ่งเป็นชุดตรวจคัดกรองเบื้องต้น เหมาะกับผู้ที่มีประวัติความเสี่ยงสูง ใช้ตรวจในวันที่ 5 หรือเมื่อมีอาการ และให้รายงานผลในแอพพลิเคชั่นหมอชนะ 3.เทสต์ แอนด์ โก ทางอากาศ ให้สามารถต่อเครื่องที่เป็นไฟล์บินในประเทศเพื่อไปสู่จังหวัดเป้าหมายที่กรุงเทพฯ ได้ และ 4.ปรับลดหลักฐานที่แสดงวงเงินประกันโควิดจาก 50,000 เหรียญสหรัฐ เป็นไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการเดินทางทุกประเภท โดยมาตรการที่ปรับใหม่นี้จะเริ่มรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เพื่อเดินทางถึงประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม เวลา 00.01 น. โดยเบื้องต้นถือว่าเป็นไปตามทิศทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เห็นประเทศต่างๆ ก็ปรับตัวในการผ่อนปรนเงื่อนไขการเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งการผ่อนคลายเงื่อนไขเปิดประเทศของไทย จะช่วยสนับสนุนให้เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 ไปถึง 10 ล้านคนมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น
“การทำแทรเวล บับเบิล หรือจับคู่ประเทศเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกัน ททท.ได้เดินหน้าหารือร่วมกับต่างประเทศที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวหลักของไทยอย่างต่อเนื่อง แต่หลายประเทศก็ให้คำตอบมาว่า ขอดูแลและควบคุมการระบาดโควิดในประเทศให้ดีขึ้นก่อน ทำให้โอกาสในการทำแทรเวล บับเบิลจะทยอยจางไป พร้อมกับที่เราเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น และลดข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศด้วย โดยขณะนี้ททท.ได้วางแผนทำแทรเวล บับเบิลกับอินเดีย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดเตรียมนำแผนดำเนินงานเข้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ โดยหากผ่านการพิจารณาอนุมัติแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดเดินทางระหว่างกันได้ทันที” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทวีความรุนแรงมากขี้นนั้น ททท. สำนักงานลอนดอนได้ประสานไปยังสายการบินพันธมิตรในพื้นที่ ซึ่งได้รับแจ้งว่าส่วนใหญ่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบิน เนื่องจากเส้นทางบินระหว่างสหราชอาณาจักรไปประเทศไทย ไม่ผ่านน่านฟ้าของประเทศรัสเซีย และยูเครน โดยการบินไทย แจ้งไม่มีผลกระทบ และเปิดให้บริการตามปกติ สายการบินเอทิฮัด ยูเค แจ้งไม่มีผลกระทบ สายการบินกาตาร์ แจ้งไม่มีผลกระทบในเส้นทางสหราชอาณาจักร-ไอร์แลนด์ แจ้งไม่มีผลกระทบ รวมถึงสายการบินสิงคโปร์ ก็แจ้งไม่มีผลกระทบ และให้บริการบินตามปกติเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามไปยังบริษัทนำเที่ยวพันธมิตร ได้แก่ Destination2, Gold Medal, Kuoni และ Lotus group ซึ่งบริษัทนำเที่ยวทั้ง 4 รายแจ้งว่ายังไม่มีรายงานผลกระทบต่อการจองจากสถานการณ์ดังกล่าวและยังคงมีการจองไปประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้ามีกำหนดเดินทางในไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 แต่ททท. สำนักงานลอนดอน จะสอบถามไปยังสายการบินและบริษัทนำเที่ยวอื่นๆ ในพื้นที่ หากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จะรายงานมาเพื่อทราบต่อไป