หอการค้าเพชรบูรณ์ชี้ปี 64 เศรษฐกิจเมืองมะขามหวานยังซึมยาว
วันที่ 3 ม.ค.63 นายยชญ์สุธา วิชัยธนพัฒน์ ประธานหอการค้าจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในภาพรวมของ จ.เพชรบูรณ์ในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบโดเฉพาะใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2563 ค่อนข้างมาก ในขณะที่ไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายปี หลังสถานการณ์เชื้อโควิดเริ่มบางเบาลงจ.เพชรบูรณ์ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ประกอบกับเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น แต่หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 รายและยังมีกระแสนักท่องเที่ยวสาวมีประวัติไปที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ก่อนจะมาพักค้างที่ภูทับเบิกและเมื่อกลับไปตรวจพบติดเชื้อโควิด จึงทำให้สภาพเศรษฐกิจในช่วงท้ายไตรมาสที่ 4 ถึงกับเกิดอาการสะดุดอีกครั้ง
“โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวซี่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพียงระยะเวลาแค่ไม่ถึง 10 วัน ทั้งที่เขาค้อและภูทับเบิกมีนักท่องเที่ยวแห่ติดต่อขอคืนห้องพักมากถึงร้อยละ 50 และในช่วงหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งปกติเขาค้อและภูทับเบิกจะมีหนาแน่นไปด้วยรถนักท่องเที่ยว โดยมีภาพรถติดที่เขาค้อและภูทับเบิกเป็นที่คุ้นชิน แต่ปรากฎว่าช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2564 นี้ นักท่องเที่ยวหดหายไปถึงราวร้อยละ 50 ห้องพ้กโรงแรมรีสอร์ตไม่เต็ม ขณะเดียวกันสภาพถนนบนเขาค้อ-ภูทับเบิกโล่งมีรถวิ่งไปมาเบาบาง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา”
นายยชญ์สุธา กล่าวอีกว่า ส่วนสภาพเศรษฐกิจหลังปีใหม่แล้วรงมทั้งในปี 2564 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอก 2 ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มกระจายไปในจังหวัดอื่นๆไม่หยุด ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า รัฐบาลคงจะหลีกเลี่ยงประกาศล็อคดาวน์ประเทศไม่พ้น ซึ่งผลกระทบไม่เพียงแค่จังหวัดเพชรบูรณ์เท่านั้น แต่ทั้งประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งสภาพเศรษฐกิจคงจะซึมยาวเหมือนกับช่วงที่เราต้องเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิดในรอบแรก และหากมีวัคซีนออกมาใช้สถานการณ์อาจจะดีขึ้นในระดับหนึ่งก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเวลานี้เท่าที่ทราบเชื้อโควิดได้มีการพัฒนาขึ้น จึงไม่แน่ใจว่าวัคซีนเหล่านี้จะป้องกันได้หรือไม่ ฉะนั้นการป้องกันตัวเองตามมาตรการสาธารณสุขในเวลานี้น่าจะเป็นแนวทางการป้องกันหรือสกัดการแพร่กระจายเชื้อโควิดได้ดีที่สุด
“ทางหอฯเพชรบูรณ์จึงพยายามส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ประกอบการให้เตรียมพร้อม สำหรับการทำธุรกิจแบบนิวนอร์มอล เพื่อจะรองรับสถานการณ์หลังจากนี้ และขอให้ถอดบทเรียนจากการแพร่ระบาดในครั้งแรก เพื่อมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งพยายามเพิ่มช่องทางค้าขายในทุกแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ให้มากที่สุด ที่สำคัญต้องปรับปรุงสถานประกอบการให้เป็นตามมาตรการสาธารนสุข เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และพยายามเก็บเงินสดไว้ รวมทั้งให้ทบทวนการลงทุนใหม่ๆ”นายยชญ์สุธากล่าวว่า อย่างไรก็ตามในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในรอบแรกที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัวให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อความอยู่รอดเพราะหากอ่อนแอธุรกิจก็คงอยู่ไม่รอด